นายสุทิน คลังแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า เท่าที่ตนฟังการอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ต่างจากที่ตนได้คาดหมายว่าเป็นนามธรรม เป็นการกล่าวหาที่ปล่อยลอยๆ มากกว่า ยังขาดตัวบ่งชี้ถึงพฤติกรรม เช่น ดีลแลกประเทศ ซึ่งตนพยายามฟังอยู่ว่ามีการไปดีลกันเมื่อไร เรื่องอะไร ก็ยังเป็นการพูดลอยๆ คลุมเครือ ไม่เห็นชัดว่าไปดีลกันอย่างไร ส่วนพฤติกรรมขาดภาวะผู้นำ หรือถูกครอบงำ ยังไม่มีตัวบ่งชี้ถึงพฤติกรรมนั้น เช่นเดียวกับกรณีของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งดูเหมือนว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจหากเทียบกับทุกครั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความหนักแน่นพอ จะมีเป็นรูปธรรมบ้างก็การอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่มีการบ่งชี้ถึงพฤติกรรมอยู่ แต่ก็เป็นรายละเอียดที่จะต้องไปศึกษากันอีกครั้ง และคงต้องไปฟังนายกรัฐมนตรีชี้แจง
ทั้งนี้ มองว่าการอภิปรายของนายวิโรจน์ น่าสนใจ เพียงแต่อาจใช้อารมณ์บดบังสาระมากไป ถ้าตัดเรื่องอารมณ์ เรื่องวาทะ ตัดเรื่องการเสียดสีออก มองว่าสาระจะน่าสนใจมากกว่านี้ ดังนั้นภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกในครึ่งเช้า ถ้ามองในฐานะรัฐบาลเองมองว่ายังไม่มีอะไรน่าหนักใจ และที่ตนตั้งสมมติฐานว่าข้อมูลน้อยน่าจะเป็นความจริง
เมื่อถามถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านจะไปถึงยุทธการโรยเกลือได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คงไม่ไปถึงขั้นนั้น โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้าน ดูแล้วเบาหวิวกว่าที่คาด เพราะกล่าวลอยๆ ไม่มีตัวบ่งชี้ถึงพฤติกรรม
ส่วนหากมีการเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในตระกูลชินวัตร จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คงจะเป็นช่วงการอภิปรายของนายวิโรจน์ เป็นส่วนใหญ่ที่พูดชัดเจนถึงครอบครัวและเจาะจงให้ร้าย ถ้าไม่เป็นความจริงเขาก็ต้องมีสิทธิ์ฟ้อง และถ้าเขาตอบแล้วยืนยันแล้วไม่เป็นความจริง เรื่องนี้ก็คงต้องถึงขั้นฟ้องร้องกัน นายวิโรจน์ ก็ต้องรับผิดเพราะกล่าวหาชัดเจนและหนักหน่วง
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะมีการยื่นเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช. หลังการอภิปราย นายสุทิน กล่าวว่า ที่จริงแล้วหากทุกคนอภิปรายเรื่องทุจริตก็ต้องยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ก็ต้องรู้ว่าเขาจะยื่นหรือไม่ และเรื่องที่น่าสนใจมีเรื่องภาษี ซึ่งก็ต้องฟังนายกรัฐมนตรีตอบด้วย
ขณะที่การอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร เข้าใจได้ว่า พล.อ.ประวิตร แค่จั่วหัวมากกว่า ท่านก็พยายามทำให้ดีที่สุดของท่านแล้ว ก็ให้กำลังใจ แต่ไม่ถึงขั้นหนักแน่น หรือเป็นข้อกล่าวหาที่น่าสนใจ และต้องรอดูว่าจะมีใครมาอธิบายขยายซ้ำอีกหรือไม่ หากอธิบายเท่านี้ก็ไม่น่าจะถึงขั้นไม่ไว้วางใจ
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ประเทศไม่ใช่เวทีของนายกฯ ฝึกหัด นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเพียงวาทกรรมที่พูดกันมาตลอด ว่าเป็นสนามเด็กเล่น และคราวนี้ก็มาบอกว่าเป็นนายกฯ ฝึกหัด ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เป็นเรื่องฝึกหัด การมีทีมงานที่ดี มีพี่เลี้ยงที่ดี น่าจะดีกว่าพวกที่มีอาวุโสแต่ไม่มีทีมงาน
ขณะที่การชี้แจงของนายกรัฐมนตรีต่อคำอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร นายสุทิน มองว่า น่าจะเป็นมุก เป็นการย้อนศร เพื่อทำให้ทุกคนผ่อนคลายและสนุกมากกว่า แต่ในเรื่องการตอบแบบจริงจัง คงจะมีการชี้แจ้งอีกครั้ง
เมื่อถามว่าหากเปรียบการอภิปรายในครั้งนี้ ให้เป็นกลอนลำ ปรับเปลี่ยนเป็นกลอนอะไร นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ลำซิ่ง ไม่ใช่ ลำเต้ย แต่เป็น "ลำล่อง" ล่องลอยไป พูดไปเรื่อย ล่องลอยไปเรื่อย