นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมงกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำซึ่งเป็นสัตว์น้ำรุกรานต่างถิ่น (Alien species) ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำมาอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้ยกระดับให้ดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมได้ผลักดันผ่านแนวทางการแก้ไขปัญหาใน 7 มาตรการ โดยมุ่งเน้นไปที่การนำปลาหมอคางดำออกจากระบบนิเวศ ทั้งด้วยการปล่อยปลาผู้ล่า การจับมาใช้ประโยชน์ ที่ผ่านมาได้กำจัดออกจากระบบนิเวศไปแล้วกว่า 3,500,000 กิโลกรัม ทำให้ขณะนี้ปัญหาการแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากที่เคยระบาดใน 19 จังหวัดเหลือเพียง 16 จังหวัด โดยมีระดับความชุกชุมในธรรมชาติอยู่ในระดับชุกชุมปานกลางและในระดับชุกชุมน้อย ล่าสุดกรมประมงได้ทำหนังสือไปยังสำนักงบประมาณเพื่อของบกลางในการกำจัดปลาหมอคางดำธรรมชาติและที่หลุดรอดเข้าไปในบ่อเลี้ยงของเกษตรกร โดยตั้งเป้าในการกำจัดเพิ่มเติมอีกกว่า 3,000,000 กิโลกรัม
มาตรการสำคัญคือ การวิจัยพัฒนาการเหนี่ยวนำโครโมโซมเพื่อให้ปลาหมอคางดำเป็นหมันไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อได้ นักวิจัยของกรมประมงได้ดำเนินโครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการในการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ โดยการนำหลักพันธุศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อการควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ ด้วยการใช้เทคนิคการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซมจากเดิมที่มีจำนวนชุดโครโมโซมตามธรรมชาติ 2 ชุด หรือ 2n ให้เป็นปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด หรือ 4n โดยจะนำปลาหมอคางดำ 4n เพศผู้ ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำซึ่งมีชุดโครโมโซม 2n ในธรรมชาติ โดยลูกปลาหมอคางดำที่ได้จากการผสมในลักษณะนี้จะได้ลูกปลาฯ ที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด หรือ 3n มีลักษณะที่เป็นหมัน ขณะนี้มีการศึกษาการผสมในหน่วยทดลองแล้ว
นอกจากนี้ คณะนักวิจัยยังปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการเหนี่ยวนำโครโมโซมเพิ่มเติม 9 รูปแบบ โดยมีการตรวจสอบจำนวนชุดโครโมโซมเป็นระยะๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซมให้เหมาะสมเเละเพียงพอเพื่อขยายปล่อยลงเเหล่งน้ำสำหรับควบคุมจำนวนปลาหมอคางดำในเเหล่งน้ำธรรมชาติต่อไปซึ่งจะเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับข้อเรียกร้องของเครือข่ายประชาชนจาก 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ใน 4 ข้อเรียกร้องนั้น กรมประมงได้รับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าวแล้ว มีทั้งประเด็นที่อยู่ในกระบวนการทางกฏหมายชั้นศาล รวมถึงการพิจารณาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ พร้อมยืนยันว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมประมงไม่ได้เพิกเฉยและเข้าใจถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยจะเร่งกำจัดสัตว์น้ำรุกรานต่างถิ่น พร้อมทั้งฟื้นฟูระบบนิเวศแหล่งน้ำให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมต่อไป