xs
xsm
sm
md
lg

กรมส่งเสริมสหกรณ์วาง 3 มาตรการ รับมือปริมาณผลผลิตผลไม้ภาคตะวันออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์  อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้วางมาตรการบริหารจัดการผลไม้ของสถาบันเกษตรกรปี 2568 เพื่อเตรียมรับมือกับปริมาณผลผลิตผลไม้ภาคตะวันออก ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไว้  3 มาตรการ ดังนี้

1. มาตรการด้านการผลิตและรวบรวม ผ่านโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นการส่งเสริมและให้ความรู้ด้านมาตรฐานเกษตรปลอดภัยแก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร , โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น มุ่งส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น/ภูมิปัญญาพื้นถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็น เพื่อให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและกระจายผลผลิต

2. มาตรการด้านการเงิน ผ่านการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี) จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรกู้ยืมไปดำเนินธุรกิจรวบรวมและจำหน่ายผลไม้ โดย ในปี 2568 มีเป้าหมาย จำนวน 37 สหกรณ์ ในพื้นที่ 20 จังหวัด ทั่วประเทศ วงเงินรวม 87 ล้านบาท

3. มาตรการด้านการตลาด ผ่านการส่งเสริมการกระจายผลผลิตคุณภาพผ่านขบวนการสหกรณ์ และส่งเสริมการค้าด้านการตลาดทั้งตลาด Offline และตลาด Online รวมทั้งจัดทำโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้เพื่อยกระดับราคาของสถาบันเกษตรกร ขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนจ่ายขาดจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในการให้สถาบันเกษตรจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ตะกร้าผลไม้เพื่อใช้ในการรวบรวมและกระจายผลผลิต

ทั้งนี้ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม นับเป็นช่วงที่ผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออกในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด เริ่มออกสู่ท้องตลาด โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจ 4 ชนิด ประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ซึ่งนับเป็นผลผลิตทางการเกษตรสำคัญที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงจากข้อมูลการผลิตและประมาณการผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออกของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ที่คาดการณ์ว่า ปี 2568 จะมีปริมาณผลผลิตไม้ผล 4 ชนิดดังกล่าวรวมถึง 1,453,862 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 999,211 ตัน (เพิ่มขึ้น 454,651 ตัน หรือร้อยละ 45.50) ทำให้กล่าวโดยสรุปได้ว่า ในปี 2568 ผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออก ทั้ง 4 ชนิด (ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เตรียมความพร้อมรับมือกับปริมาณผลไม้เศรษฐกิจ