ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ระบุว่า กรณีได้รับผล
กระทบจากวัคซีนมีทางออกแล้ว ตามนี้รบกวน แชร์ไปให้มากที่สุดครับ
**ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด**
**ช่วยส่งต่อกันด้วยนะครับ เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าจะได้ผล จากคำแนะนำของผู้ใหญ่ในวงการศาล**
ให้เอาข้อมูลไปยื่นแผนกคดีผู้บริโภค ศาลแพ่ง เพราะเป็นคนละหน่วยงานซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับศาลปกครอง
และอาจจะสามารถขอเปิดเผยข้อมูลที่พวกเขาปกปิดไว้ได้ด้วย โดยตอนยื่นคำร้องให้ขอเพิ่มเติมเรื่องต้องการให้เปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงานนั้นได้เลย สามารถเรียกผู้ที่มีข้อมูลมาเป็นพยานในศาลได้ และเขาต้องเปิดเผยตามจริงเนื่องจากต้องสาบานตนในศาล ถ้าพูดไม่จริงถือมีความผิด
(แม้กระทั่งข้อมูลที่ผมและอาจารย์ธีระวัฒน์โพสต์ไปแล้วมาหาว่าเป็น fake news เราก็สามารถเล่นงานหน่วยงานที่กล่าวหาเราได้ว่าเอาข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งประเด็นนี้ผมกับอาจารย์กำลังคุยกันว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ดี)
ความจริงจะได้เปิดเผยมาสักที
สรุป : ลองยื่นเรื่องไปที่แผนกคดีผู้บริโภค ศาลแพ่ง และมี 5 ประเด็นนี้ที่สำคัญมาก
1. ต้องระบุในคำร้องว่าการฉีดวัคซีนถึงแม้เราไม่ได้จ่ายเงินเอง แต่เป็นการเอาภาษีอากรของเราไปจ่าย เป็นค่าบริการที่รัฐจัดหาให้เรา (ถึงแม้ฐานรายได้เราจะไม่ถึงขั้นเสียภาษีก็ตาม แต่ก็เป็นการบริการที่รัฐจัดหาให้ เป็นการใช้เงินภาษีของประชาชน เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนพนักงานโรงงานนั่งรถของบริษัทกลับบ้าน พนักงานไม่ได้จ่ายค่ารถ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุบริษัทก็ต้องรับผิดชอบ)
2. ให้หาข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับตัวเรา เช่น สุขภาพเดิมเป็นอย่างไร ทำมาหาเลี้ยงชีพมีรายได้เท่าไหร่ หลังฉีดวัคซีนนานแค่ไหนเกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวความเป็นอยู่มากน้อยเพียงใด ไปร้องเรียนหน่วยงานไหนมาแล้วบ้าง คือรวบรวมข้อมูลต่างๆของตัวเรามาให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้จะมีประโยชน์มากในชั้นศาล
3. หาข้อมูลให้มากทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ข้อมูลที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ท่านยกตัวอย่างคือ WHO ที่บอกว่าตอนแรกบังคับให้ฉีด ต่อมาบอกว่าไม่ได้บังคับ หรือข้อมูลของหน่วยงานราชการที่ชี้แจงก่อนหน้านี้และภายหลังที่ไม่ตรงกัน จะมีประโยชน์มาก
4. คำให้การในชั้นศาลต้องพยายามอธิบายให้เป็นภาษาที่ง่ายที่สุดเพื่อศาลจะได้เข้าใจ หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์ทางการแพทย์
5. ข้อนี้สำคัญที่สุด ต้องเขียนคำร้องให้ไปในทิศทางที่เป็นคดีผู้บริโภค ประเด็นนี้คงต้องปรึกษาสภาทนายความ ซึ่งเคยมีการพูดคุยเรื่องนี้ไว้แล้ว จะช่วยในการเขียนสำนวนได้มาก
ถ้าผู้เสียหายมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถยื่นคำร้องที่แผนกคดีผู้บริโภค ศาลแพ่ง แต่ถ้ามีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ยื่นที่ศาลชั้นต้นตามปกติ แต่ในสำนวนต้องระบุชัดเจนว่าเป็นคดีผู้บริโภค ดังนั้นการเขียนสำนวนในข้อ 5 จึงสำคัญมาก
รบกวนช่วยแชร์ไปให้ผู้ได้ผลกระทบจากวัคซีนด้วยนะครับ จะได้รับการเยียวยาที่เหมาะสมสักที
นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ