จากที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอตามสื่อออนไลน์ ผู้ขับรถแท็กซี่มีพฤติกรรมลวนลามผู้โดยสารหญิงขณะกำลังจะลงจากรถ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 35 ถ.สุขสวัสดิ์ เขตราษฎร์บูรณะนั้น
กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกตัวผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาชี้แจงข้อเท็จจริง ผู้ขับรถแท็กซี่ให้การว่า รับผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวมาจากซอยสุขุมวิท 26 เพื่อไปส่งบริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 35 แต่ผู้โดยสารแจ้งจุดหมายคลาดเคลื่อน จึงต้องขับรถวนหา และสามารถส่งผู้โดยสารถึงที่หมายตามที่ตกลงได้ โดยมีค่าโดยสารจำนวน 176 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้จ่ายค่าเสียเวลาเพิ่มให้อีก จำนวน 24 บาท รวมเป็นเงิน 200 บาท แต่ขณะที่ผู้โดยสารกำลังจะลงจากรถ ตนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ขาดความยับยั้งชั่งใจ จึงได้หันมาจับมือและลวนลามผู้โดยสารตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอจริง
กรมการขนส่งทางบกพิจารณาแล้ว เห็นว่า พฤติกรรมของผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ จึงได้ลงโทษ ดังนี้
1. เปรียบเทียบปรับในข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล หรือกระทำการลามกอย่างอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ตามมาตรา 5(15/1) ประกอบมาตรา 58/1 เป็นเงิน 1,500 บาท
2. สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ เป็นเวลา 3 เดือน
3. ส่งเข้ารับการอบรมจิตสำนึกความปลอดภัยและการให้บริการผู้โดยสาร เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สำหรับความผิดอาญาในข้อหากระทำอนาจารต่อผู้อื่น ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ไว้แล้ว เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกตัวผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาชี้แจงข้อเท็จจริง ผู้ขับรถแท็กซี่ให้การว่า รับผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวมาจากซอยสุขุมวิท 26 เพื่อไปส่งบริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 35 แต่ผู้โดยสารแจ้งจุดหมายคลาดเคลื่อน จึงต้องขับรถวนหา และสามารถส่งผู้โดยสารถึงที่หมายตามที่ตกลงได้ โดยมีค่าโดยสารจำนวน 176 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้จ่ายค่าเสียเวลาเพิ่มให้อีก จำนวน 24 บาท รวมเป็นเงิน 200 บาท แต่ขณะที่ผู้โดยสารกำลังจะลงจากรถ ตนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ขาดความยับยั้งชั่งใจ จึงได้หันมาจับมือและลวนลามผู้โดยสารตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอจริง
กรมการขนส่งทางบกพิจารณาแล้ว เห็นว่า พฤติกรรมของผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ จึงได้ลงโทษ ดังนี้
1. เปรียบเทียบปรับในข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล หรือกระทำการลามกอย่างอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ตามมาตรา 5(15/1) ประกอบมาตรา 58/1 เป็นเงิน 1,500 บาท
2. สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ เป็นเวลา 3 เดือน
3. ส่งเข้ารับการอบรมจิตสำนึกความปลอดภัยและการให้บริการผู้โดยสาร เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สำหรับความผิดอาญาในข้อหากระทำอนาจารต่อผู้อื่น ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ไว้แล้ว เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป