นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันเดินหน้าปรับขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบที่เหมาะสม พร้อมฝากให้คณะกรรมการไตรภาคีตัดสินใจในการประชุมวันที่ 12 มีนาคมนี้ หลังจากเคยเลื่อนพิจารณามาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งนี้ รัฐบาลเคยใช้โมเดลปี 2555 ในบางจังหวัดเป็นแนวทาง และขณะนี้มี 4 จังหวัดกับ 1 อำเภอที่สามารถขึ้นค่าแรงได้
อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ ยอมรับว่า การขึ้นค่าแรงอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่ม SME และเศรษฐกิจโดยรวม จึงต้องพิจารณาแนวทางบรรเทาผลกระทบ อาทิ การลดหย่อนภาษีเงินได้ การปรับลดเงินสมทบประกันสังคมของนายจ้าง และมาตรการช่วยเหลือด้านสาธารณูปโภค ซึ่งต้องหารือร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน การขึ้นค่าแรงส่งผลต่อราคาสินค้าและค่าครองชีพ โดยเฉพาะภาคเกษตร เช่น ราคาน้ำมันพืชที่พุ่งขึ้นจาก 40 บาท เป็น 60 บาท จากภาวะภัยแล้ง กระทรวงพาณิชย์จึงต้องเร่งตรึงราคาสินค้าจำเป็น ทั้งนี้ หากการประชุมไตรภาคีครั้งแรกไม่สามารถหาข้อยุติได้ อาจต้องมีการประชุมครั้งที่สองภายใน 15 วัน
สำหรับแผนปรับขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาท ภายในปี 2570 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า จะพิจารณาตามสภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และ GDP ซึ่งหากปัจจัยต่างๆ ไม่เอื้อ ก็อาจไม่สามารถปรับขึ้นถึงระดับดังกล่าวได้ แต่ปัจจุบันมี 129 อาชีพที่ได้รับค่าแรงเกิน 400 บาทแล้ว และเหลือเพียง 13 อาชีพที่ยังต่ำกว่าระดับนี้