จากที่มีการเผยแพร่เรื่อง เรือนจำไทย มีขาใหญ่ นช.สมเด็จ ดูแลนักโทษ เงินหมุนเวียน เข้าบัญชีม้า 10-20 ล้านบาทนั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ตรวจสอบโดย กรมราชทัณฑ์ พบว่า เป็นข้อมูลเท็จ
กรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบและชี้แจงว่า ไม่มีสมเด็จในเรือนจำ เนื่องจากมีการตรวจสอบเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ในเรื่องการจับกลุ่ม และมีการสลายกลุ่มบ้านที่สร้างอิทธิพล รวมถึงมีการตรวจค้นจู่โจมสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำอย่างสม่ำเสมอ และเงินฝากของผู้ต้องขังในเรือนจำ พ.ศ. 2563 กำหนดให้ผู้ต้องขังมีเงินฝากในบัญชีได้ไม่เกิน คนละ 15,000 บาท โดยเงินฝากดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติฝากไว้ให้กับผู้ต้องขังแต่ละราย เพื่อไว้ซื้อสินค้าจากร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์เน้นย้ำให้บุคลากรทุกระดับต้องไม่กระทำการทุจริตผิดคุณธรรมจริยธรรม และต้องปฏิบัติตนตามข้อกำหนดจริยธรรมของกรมราชทัณฑ์ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำทุจริต จะดำเนินการลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
กรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบและชี้แจงว่า ไม่มีสมเด็จในเรือนจำ เนื่องจากมีการตรวจสอบเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ในเรื่องการจับกลุ่ม และมีการสลายกลุ่มบ้านที่สร้างอิทธิพล รวมถึงมีการตรวจค้นจู่โจมสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำอย่างสม่ำเสมอ และเงินฝากของผู้ต้องขังในเรือนจำ พ.ศ. 2563 กำหนดให้ผู้ต้องขังมีเงินฝากในบัญชีได้ไม่เกิน คนละ 15,000 บาท โดยเงินฝากดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติฝากไว้ให้กับผู้ต้องขังแต่ละราย เพื่อไว้ซื้อสินค้าจากร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์เน้นย้ำให้บุคลากรทุกระดับต้องไม่กระทำการทุจริตผิดคุณธรรมจริยธรรม และต้องปฏิบัติตนตามข้อกำหนดจริยธรรมของกรมราชทัณฑ์ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำทุจริต จะดำเนินการลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด