xs
xsm
sm
md
lg

มติ กคพ.รับเรื่อง "ฮั้วเลือก สว." เป็นคดีพิเศษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้

โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ขณะที่คณะกรรมการโดยตำแหน่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนโดยตำแหน่ง ได้ส่งผู้แทน คือ พล.ต.ท.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บัญชาการกฎหมายและคดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เข้าร่วมการประชุม แต่ถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว จึงสามารถดำเนินการประชุมต่อไปได้ตามระเบียบวาระ

ด้านนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะคณะกรรมการโดยตำแหน่ง ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุม ซึ่งต่างจากครั้งก่อนที่เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม คณะ สว. สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรมพร้อมป้ายไวนิล เพื่อส่งกำลังใจให้การประชุมโหวตรับคดีฮั้ว สว.67 เป็นคดีพิเศษของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ทั้งยังรอลุ้นฟังผลการรับเป็นคดีพิเศษอีกด้วย

ภายหลังการประชุม นายภูมิธรรม เวชยชัย แถลงข่าวร่วมกับ นายทวี สอดส่อง ระบุว่า คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงินด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง งดออกเสียง 3 ไม่เห็นชอบ 4 โดยยืนยันว่าไม่ใช่การแย่งงาน กกต. ทำเพราะต้องยอมรับความจริงว่ามีประชาชนมาร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอและหากไม่ดำเนินการก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทั้งนี้ยอมรับหนักใจกับการดำเนินการเรื่องดังกล่าวจึงย้ำในคณะกรรมการว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง