ประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เรื่อง ห้ามเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว
ด้วยในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนของทุกปี มักจะเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ทำความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าอย่างรุนแรง สาเหตุมา จากการเผาเพื่อเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ และกำจัดวัชพืชในพื้นที่เกษตรที่อยู่ใกล้ป่า เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกโดย ไม่มีการควบคุม ส่งผลให้ไฟป่าลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่า จังหวัดเชียงใหม่จึงกำหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเขตบริหารจัดการเชื้อเพลิงและเขตควบคุมการเผา และกำหนดมาตรการ ทางกฎหมายในการควบคุมไฟป่าในเขตป่าไม้ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก พี่เอ็ม ๒.๕ ตามนโยบายของรัฐบาล และ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองดูแลรักษา หรือบำรุงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๕๓ และมาตรา ๘๒ (๑) (๔) เพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเสียหาย แก่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จึงประกาศห้ามมิให้บุคคลเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ท้องที่ตำบลแม่นะ ตำบลเชียงดาว ตำบลเมืองงาย ตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว และตำบลเมืองแหง อำเภอ เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ยกเว้นผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกินที่ได้มีการสำรวจการถือครองที่ดิน ไว้ตามมาตรา ๑๒๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับผู้มีเหตุจำเป็นให้ประสานหน่วยงานของเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว กำนันผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ พร้อมแจ้งรายชื่อและสาเหตุความจำเป็นในการเข้าพื้นที่ เพื่อขออนุญาต โดยกำหนดเวลาเข้าป่าตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ ถึง ๑๘.๐๐ น. เท่านั้น และต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ พนักงานเจ้าหน้าที่ หากผู้ใดทำการเผาป่า หรือเผาพื้นที่เพื่อเตรียมการทำเกษตรในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้ รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา ๕๕ (๒) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครอง สัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๔ - ๒๐ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๔๐๐,๐๐๐ - ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีความผิดดังกล่าวได้กระทำในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ หรือพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๒ ตามที่ รัฐมนตรีกำหนดหรือพื้นที่เปราะบางของระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้กระทำจะต้องโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ถึง ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๘