พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการรับตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย 119 คน จากทางการกัมพูชา หลังมีการกวาดล้างในฝั่งปอยเปต เข้ามายัง จ.สระแก้ว ส่งให้ทางการไทยกลับมาดำเนินคดี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM (National Referral Mechanism การบริหารจัดการคดีและการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ) เพื่อคัดแยกระหว่างเหยื่อที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงาน กับผู้ที่สมัครใจไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตำรวจภูธรภาค 2, บก.ปคม., สตม. และ บช.สอท. ร่วมสอบสวน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากระบบ Crime และ Thaipolice Online ในจำนวนนั้นมีถูกออกหมายจับ 7 ราย 11 หมายจับ มีคดียาเสพติด และคดีฉ้อโกงประชาชน อาชญากรรมออนไลน์ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอีก 10 ราย ที่มีการแจ้งความในระบบ Thaipolice Online 46 คดี ซึ่ง 10 รายนี้ มีบุคคลคนเดียวกันกับที่ถูกออกหมายจับใน 7 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดแยก หากพบว่าเข้าข่ายเป็นผู้กระทำความผิด จะถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งการเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เข้าหลักเกณฑ์ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ที่จะต้องสืบสวนเส้นทางการเงิน เพื่อให้ ปปง. ยึดทรัพย์ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเฉลี่ยทรัพย์ให้แก่ผู้เสียหายต่อไปในอนาคต
เบื้องต้นมีการนำโทรศัพท์จำนวน 121 เครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคนไทยที่ถูกส่งกลับมาด้วย ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อนำมาขยายผลต่อ เพราะช่วงที่ทางการกัมพูชาเข้าไปปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ที่ปอยเปต ซึ่งอยู่กันเป็นพันคน ทั้งคนไทยและคนชาติอื่น มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลบหนีไปได้เป็นจำนวนมาก
จากการที่ทางการกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ว่าทั้ง 119 คน สมัครใจไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เพื่อความเป็นธรรมจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นเหยื่อ หรือใครจงใจไปทำงาน
จากภาพที่ปรากฏในสื่อมวลชนที่ทางการกัมพูชาระดมกวาดล้างจับกุม จะเห็นว่ามีความพยายามที่จะหลบหนี ไม่ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผิดวิสัยของเหยื่อ ถ้าถูกหลอกไปทำงานควรจะวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ อีกทั้งใน 119 คนที่ส่งตัวกลับมาทุกคนมีโทรศัพท์มือถือใช้ หากเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกจะไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ จึงบ่งชี้ได้ว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครใจไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดกระบวนการคัดแยก หรือ NRM จะควบคุมตัวผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดมาดำเนินคดี โดย บช.สอท. เป็นแม่งานทำคดี ซึ่งหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังต่อไป