น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร" ถึงการพัฒนาการเกษตร เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย ว่า เกษตรกรไทยมีประมาณ 10 ล้านคน มีพื้นที่การเกษตรคิดเป็น 47% เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ภาคการเกษตรมีส่วนใน GDP แค่ 9% เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรไทยทำงานหนักแต่ได้เงินน้อย เช่น เรื่องข้าว หลายประเทศส่งออกเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทั่วโลกราคาตก ซึ่งได้มีการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งแก้ไขปัญหา โดยได้ออกมาตรการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้วในการช่วยเหลือพี่น้องชาวนา มั่นใจว่าสินค้าจะมีราคาเพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่ภาคเกษตรต้องทำต่อไปคือ การวิจัย (R&D) ทุกประเทศลงทุนกับการวิจัยในการพัฒนาพันธุ์พืช การเลี้ยงสัตว์ เพื่อส่งออกให้มีคุณภาพที่ดีมากขึ้น เรื่องของการวิจัยมีหลายมุมมอง อาทิ เกษตรแม่นยำ ประเมินว่าดินแบบนี้ปลูกพืชแบบไหนได้ดีสุด เรื่องของการวิจัยสัตว์ ไม่ใช่สร้างพันธุ์ใหม่ตลอดเวลา แต่เป็นการวิจัยว่าการเลี้ยงในสภาวะแวดล้อมแบบไหน ทำให้ได้ผลผลิตที่มีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ กำลังทำเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้ การวิจัย ทำให้พี่น้องเกษตรกรทำงานเท่าเดิม ได้ผลผลิตมากขึ้น ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ และขายได้ราคาสูงขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับผลไม้ไทย พืชเศรษฐกิจใหม่ ไทยเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญของโลก ทั้งทุเรียน ลำไย มะม่วง มังคุด แต่ตอนนี้ทุกประเทศพยายามแข่งขันผลิตทุเรียน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมูลค่า เพราะฉะนั้น จะหยุดในเรื่องของการพัฒนาตัวเองไม่ได้ ถึงเน้นย้ำการวิจัยเพื่อที่จะผลักดันต่อ เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เราจะมีอำนาจในการต่อรองและสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องการส่งออกให้กับต่างประเทศ โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น แลนด์บริดจ์ และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ทำให้การส่งออกมีประสิทธิภาพ สามารถส่งสินค้าได้สดใหม่ และมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนผลไม้ไทย ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ให้เป็นเหมือน “ไวน์ฝรั่งเศส” ที่มีมูลค่าสูง อยากผลักดันให้ผลไม้ไทยมีการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าของไทย ประเทศไทยนิยมปลูกชา กาแฟ พืชทดแทน มีกาแฟบางประเภทที่ขายได้ราคาสูง
รัฐบาลต้องการให้ปลูกกาแฟหลายสายพันธุ์มากขึ้น ความพิเศษในทรัพยากรและสภาพภูมิอากาศของไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราพิเศษ เพราะฉะนั้นเกษตรกรชาวสวนกาแฟ สามารถคิดผลิตภัณฑ์สายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งวิธีการทานเฉพาะของไทย รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ เมื่อคิดผลิตภัณฑ์เสร็จจะสามารถกำหนดมาตรฐานของเราได้ ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นร้านอาหารไทยที่จำหน่ายอาหารไทยทั่วโลก หากร้านไหนใช้วัตถุดิบของไทยก็จะมีการให้ "ดาว" การันตี และเป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งออกวัตถุดิบไทย เพื่อให้ทั่วโลกได้สัมผัสรสชาติอาหารไทยจริง ซึ่งตอนนี้มีการทำ Thai SELECT จัดอันดับดาวของสินค้าต่างๆ ในร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ถือเป็นภาคต่อนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก ตั้งแต่สมัยของรัฐบาลไทยรักไทย และอาหารไทยถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สําคัญ ใช้อาหารเป็นทูต (Gastrodiplomacy) สานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อมีโอกาสคุยกับผู้นำต่างประเทศก็จะพูดคุยเรื่องอาหารไทยกัน เพราะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันง่าย ทุกคนก็รู้จัก ถือว่าอาหารเป็นทูตได้อย่างดี นอกจากการส่งออกสินค้าไทยแล้ว การแปรรูปสินค้าไทยก็สําคัญมาก ซึ่งการแปรรูปให้เป็นสิ่งที่ส่งออกไปได้ง่ายขึ้น สินค้ามีอายุยาวนานขึ้น ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาส เช่น เรื่องของสินค้าล้นตลาด ถ้าเราสามารถแปรรูปได้ก็จะเป็นโอกาสของเกษตรกรได้เช่นกัน