xs
xsm
sm
md
lg

รมว.พณ.สั่งการ 8 นโยบายเร่งด่วนขับเคลื่อน ศก.ไทย พร้อมผลักดัน FTA ไทย-อียู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการ 8 นโยบายเร่งด่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หลังตัวเลขส่งออกเดือนมกราคม 2568 ขยายตัว 13.6 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเดินหน้าผลักดัน FTA ไทย-อียู ขับเคลื่อนโครงการ Thailand Brand เพื่อการันตีสินค้า SME และพัฒนาภาพลักษณ์สินค้าไทยให้แข็งแกร่งในตลาดโลก

ทั้งนี้ 8 นโยบายเร่งด่วน ประกอบด้วย 1.การสื่อสารเชิงรุก สร้างความเข้าใจให้พี่น้องเกษตรกรได้รับทราบถึงมาตรการที่ผ่านการประชุม นบข. วานนี้ (26ก.พ.68) คือ เงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท (ไม่เกิน 10 ไร่) ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสนับสนุนข้าวนาปรัง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ปัญหาในอนาคต รวมถึงได้กำชับให้ทำงานเชิงรุก ให้เร่งเตรียมแผน เพื่อดูแลราคาสินค้าเกษตร สินค้าผลไม้อื่นๆ

2.พัฒนา Thailand Brand การันตีคุณภาพสินค้าไทยด้วยโครงการ Trust Thailand ยกระดับแบรนด์สินค้าไทยสำหรับ SME รุ่นใหม่ พร้อมปรับระบบ Thai Select ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยใช้มาตรฐาน ดาว 1-3 ระดับแบบมิชลิน เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

3.เร่งเจรจา FTA ไทย-อียู ตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ หลังจากประสบความสำเร็จในการเจรจา FTA ไทย-เอฟตา และปิดดีล FTA ไทย-ภูฏาน โดยเตรียมประชุมวิดีโอคอลกับอียู ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ เพื่อเร่งรัดข้อตกลงการค้าเสรี โดยอียูมีท่าทีพร้อมลดเงื่อนไขหลายด้าน

4.เปิดเสรีการส่งออกข้าว การทลายทุนผูกขาดข้าว ปรับเงื่อนไขการเก็บสต๊อกข้าวผู้ส่งออก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. และปรับค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าว โดยคาดว่าจะเสนอ ครม. ได้ภายในเดือนมี.ค.68 เพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ส่งออกข้าวได้สะดวกมากขึ้น ทั้งผลักดันราคาข้าวไทย ล่าสุดราคาข้าวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากการหารือกับภาคเอกชน

5.คุมเข้มสินค้าต่างประเทศผิดกฎหมาย โดยสั่งการให้ตรวจสอบสินค้าด้อยคุณภาพที่เข้ามาในไทยอย่างเข้มงวด รวมถึงเร่งจัดการปัญหานอมินีถือหุ้นผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องคุ้มครอง SME ไทย โดยมีผลการปราบปรามธุรกิจนอมินี 5 เดือน (ก.ย.67-ม.ค.68) รวม 820 ราย ซึ่งมีมูลค่าเสียหายรวมกว่า 12,495 ล้านบาท

6.ขับเคลื่อนทรัพย์สินทางปัญญา เร่งพัฒนามาตรฐานสินค้าไทยในตลาดโลก เป้าหมายคือ ถอดชื่อไทยออกจากบัญชี Watch List ของประเทศที่ถูกจับตามองเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งแจ้งผลสรุปการประชุมร่วมกับ นายดาเรน ทัง ผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ซึ่งจะได้มีความร่วมมือต่างๆ ตามมา ทั้งการยกระดับอันดับ ดัชนีนวัตกรรมโลกของไทย ความร่วมมือด้าน Soft power อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการใช้ IP ยกระดับภาคการเกษตร

7.พัฒนาแอปพลิเคชันของกระทรวงพาณิชย์ (MOC super app) เพื่อประโยชน์ด้านการค้าให้กับประชาชนและภาคธุรกิจเข้าถึงข้อมูลการค้าของกระทรวงพาณิชย์ได้ง่ายขึ้น

8.สร้างเครือข่าย Food Storage กับประเทศต่างๆ วางแผนความมั่นคงทางอาหารร่วมกับประเทศพันธมิตร เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาหารในภูมิภาค และสร้างความยั่งยืนให้กับสินค้าเกษตรไทย