ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี (CDC) แจ้งว่า ยอดผู้ป่วยโรคหัดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 93 คนแล้ว เพิ่มจาก 14 คน เมื่อสัปดาห์ก่อน
ซีดีซี แจ้งว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทศมณฑลเกนส์ รัฐเทกซัส ซึ่งกำลังเกิดการระบาด โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 22 คน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เป็น 57 คน ขณะที่ทั่วรัฐเทกซัสพบผู้ป่วยแล้ว 90 คน ทำให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ของรัฐด้วย
นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยในหลายรัฐทั้งอะแลสกา แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก โรดไอส์แลนด์ และนครนิวยอร์ก โดยพบว่าผู้ป่วยร้อยละ 95 ไม่เคยฉีดวัคซีนเอ็มเอ็มอาร์ (MMR) ที่ป้องกันหัด คางทูม และหัดเยอรมัน หรือไม่ทราบสถานะการฉีดวัคซีน ขณะที่ร้อยละ 4 ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม ไม่ครบ 2 เข็ม ตามคำแนะนำของแพทย์
สหรัฐฯ ประกาศว่าปลอดจากโรคหัดในปี 2543 ตามเกณฑ์ที่ไม่พบการระบาดเป็นเวลา 1 ปี เชื้อไวรัสของโรคนี้สามารถแพร่ผ่านผู้เดินทางมาจากประเทศที่พบการระบาด ซีดีซีแจ้งว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พบการระบาดในสหรัฐฯ 3 ครั้ง เทียบกับปี 2567 ทั้งปี ที่พบการระบาด 16 ครั้ง มีรายงานผู้ป่วย 285 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า สาเหตุบางส่วนเกิดจากการที่ผู้ปกครองไม่ยอมให้บุตรหลานฉีดวัคซีน