ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของนายสุวรรณา กุมภิโร ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 และสั่งให้มีการเลือกตั้ง สส.เขตเลือกตั้งที่ 2 ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 138 และสั่งให้นายสุวรรณา กุมภิโร รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง ครั้งที่เป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคำสั่ง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 139 นั้น
ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ลต สส 6/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สส 1/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุวรรณา กุมภิโร ผู้คัดค้านเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา และให้มีการเลือกตั้ง สส.เขต 2 ใหม่ แทนผู้คัดค้าน
และให้ผู้คัดค้านชำระค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ครั้งที่เป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นเงิน 9,852,954.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันยื่นคำร้อง คือ วันที่ 27 สิงหาคม 2567) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ หากกระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเมื่อใดก็ให้ปรับเปลี่ยนไปตามนั้น บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี ตามคำขอ
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 105 บัญญัติว่า เมื่อตำแหน่ง สส. ว่างลงเพราะเหตุอื่นใด นอกจากถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทนราษฎร หรือเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่เป็นตำแหน่ง สส. ให้ดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง เว้นแต่อายุของสภาผู้แทนราษฎรจะเหลืออยู่ไม่ถึง 180 วัน และให้นำความในมาตรา 102 มาใช้บังคับโดยอนุโลม มาตรา 102 เมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ
ขณะนี้ สำนักงาน กกต. ได้มีหนังสือเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สส. จังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป