ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่ายอดขายค้าปลีกปี 2568 จะขยายตัว 3.0% ชะลอลงจากปีก่อน และต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 4.25 ล้านล้านบาท จากหลายปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ค่าครองชีพที่สูง และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่องในฝั่งผู้ประกอบการ ทั้งกับคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศผ่านสินค้านำเข้า
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt (E-Tax) หรือการแจกเงินเฟส 3 (Digital Wallet) ช่วยกระตุ้นยอดขายของค้าปลีกให้เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมไม่มาก โดยกลุ่มค้าปลีก Modern Trade น่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการฯ ดังกล่าว และส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาหารและของใช้ส่วนตัวที่เป็นสินค้าจำเป็น รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือสื่อสาร ที่ผู้บริโภคมีแผนที่จะซื้อ/เปลี่ยนรุ่นใหม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ยอดขาย Modern Trade ในปี 2568 โต 4.8% สูงกว่าการเติบโตของตลาดค้าปลีกในภาพรวม แต่รายได้ของผู้ประกอบการแต่ละ Segment จะฟื้นตัวต่างกัน โดยกลุ่มที่ดีขึ้นกว่าช่วงโควิด คือ ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากเน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ส่วนกลุ่มที่ทยอยฟื้นตัวแต่ยังไม่กลับไปเท่ากับช่วงก่อนโควิด ได้แก่ ร้านขายปลีกเสื้อผ้า/รองเท้าร้านขายปลีกเฟอร์นิเจอร์ และห้างสรรพสินค้า เนื่องจากจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าที่ผู้บริโภคสามารถเลื่อนการตัดสินใจซื้อไปก่อนได้