xs
xsm
sm
md
lg

กรมสรรพสามิตจ่อเก็บ"ภาษีความเค็ม" เริ่มที่ขนมขบเคี้ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตจะเร่งสรุปแผนการจัดเก็บภาษีสินค้าตัวใหม่ และปรับปรุงโครงสร้างภาษีสินค้าที่อยู่ในพิกัด ส่วนแรกการจัดเก็บภาษีสินค้าตัวใหม่ คือการเก็บภาษีจากสินค้าที่มีส่วนประกอบของโซเดียม หรือ ภาษีความเค็ม ในหลักการกรมฯ จะจัดเก็บจากปริมาณการใช้โซเดียมเป็นหลัก เพื่อเป็นการช่วยปรับพฤติกรรมให้ลดการบริโภคโซเดียมลดลง

ทั้งนี้ เฟสแรกจะเน้นไปที่สินค้าประเภทขนมขบเคี้ยว ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ค่อยมีความจำเป็นในการบริโภคเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น ส่วนสินค้าที่เป็นประเภทเครื่องปรุง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังไม่อยู่ในแผนการจัดเก็บ

ขณะที่กรมฯ ได้หารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้มีการปรับตัวรองรับการจัดเก็บภาษีดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดเก็บจริงนั้น ทางกรมฯ จะให้เวลาภาคเอกชนในการปรับตัวเช่นเดียวกันกับการจัดเก็บภาษีความหวาน คือการปรับอัตราแบบขั้นบันได เพื่อให้เวลาผู้ประกอบการได้ปรับตัว

น.ส.กุลยา กล่าวว่า เรื่องการเก็บภาษีความเค็มนั้น เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน จะได้ข้อสรุปในปีนี้ ซึ่งเราต้องคุยกับทุกภาคส่วน เช่นเดียวกับภาษีความหวาน เราก็ใช้เวลาศึกษาถึง 5 ปี ก่อนเริ่มเก็บ ขณะนี้เราเก็บมา 7-8 ปีแล้ว

นอกจากนี้ สินค้าที่อยู่ในแผนการปรับปรุงโครงสร้างภาษี คือ แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสินค้าที่จะช่วยลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อม โดยหลักในการปรับปรุงคือ แบตเตอรี่ที่อยู่ในขั้นปฐมภูมิ หรือใช้แล้วทิ้ง จะมีอัตราภาษีที่สูงกว่า ส่วนแบตเตอรี่ที่อยู่ในขั้นทุติยภูมิ หรือสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำหรือชาร์จได้ น้ำหนักน้อย แต่มีประสิทธิภาพสูง จะมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่า ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้อยู่ระหว่างการสรุปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี

ส่วนแนวนโยบายภาครัฐที่จะยกเลิกการกำหนดระยะเวลาห้ามการจำหน่ายสุราช่วง 14.00-17.00 น. นั้น คาดว่าจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว และจะทำให้เกิดการบริโภคสินค้าที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิตมากขึ้น ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 นี้ กรมฯ ได้รับเป้าหมายการจัดเก็บที่ 6.09 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเป้าหมายที่สูง อย่างไรก็ตาม จะพยายามจัดเก็บให้ได้ตามเป้าหมาย