นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา กล่าวในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70 ปี ว่า วันเกิดปีนี้ 70 ปีที่ 69 เป็นคุณตา ปีนี้ 70 ก็คงเป็นคุณปู่ เพราะอาวุโสมากแล้ว และคิดว่าคงได้มีโอกาสทำงานทางการเมือง ซึ่งตนเองมีประสบการณ์ทางการเมืองมา 38 ปี ซึ่งตนเองคิดว่าวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาเยอะเรื่องเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก คงอยากที่จะใช้ประสบการณ์ที่อยู่กับการเมืองมานานให้เป็นประโยชน์มากที่สุดในการแก้ไขปัญหาประเทศ ให้เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจระบบการเมือง และพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ อยากให้เศรษฐกิจดี พี่น้องประชาชนคนไทยมีความสุข
ส่วนบทบาททางการเมืองจะเป็นที่ปรึกษาหรือลงมาเล่นเองนั้น นายสุวัจน์ ระบุว่า ตนก็เป็นมาเยอะแล้วจริงๆ คิดว่าอยู่ในสถานภาพอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่ง แต่ขอให้ได้ใช้ประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือประเทศไทย ในฐานะที่ผ่านเรื่องการทำงานการเมืองและเรื่องเศรษฐกิจมาเยอะ ตนก็ยินดีที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาต่างๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ต้องรวมพลังระหว่างประสบการณ์กับความทันสมัยของนักการเมืองรุ่นใหม่ ทั้งนี้ หากรวมพลังกันได้ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้ประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้
หากพูดถึงจุดแข็งของรัฐบาล นายสุวัจน์ มองว่าจุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้คือเสถียรภาพ เพราะ 322 เสียงกับ 171 เสียง มากกว่าฝ่ายค้านเกินกึ่งหนึ่ง ถือว่ามีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นจำนวนคะแนนที่ค่อนข้างปลอดภัย รวมถึงการออกกฎหมายต่างๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาลในสภาแน่นปึ้ก ไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องคอยดูแลเสถียรภาพนอกสภา ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ ต้องแก้ไขเรียบร้อย ดังนั้น จึงย้ำว่า จุดแข็งของรัฐบาลคือเสถียรภาพ ส่วนจุดที่ยังไม่แข็งและเป็นสิ่งที่พวกเราต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาคือเรื่องเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งเครื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการทำงานและเศรษฐกิจต่างๆ ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีต่างประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ตั้งรับในภาวะเศรษฐกิจ และเห็นว่ารัฐบาลได้ทำงาน รวมถึงนายกรักฐมนตรี เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีประสบการณ์ทางการเมือง จึงมองว่า นายกรัฐมนตรีจะสามารถนำพาแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วง ซึ่งตนก็ขอเป็นกำลังใจในฐานะนักการเมือง และพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าเป็นห่วงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีการยื่นอภิปรายเรื่องอะไร แต่ก็มั่นใจว่าเสถียรภาพและการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังเรียบร้อยดีอยู่ และรัฐบาลก็ต้องทำการบ้านชี้แจงให้กับพี่น้องประชาชนเข้าใจ
ส่วนกรณีพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาตบจูบกันนั้น นายสุวัจน์มองว่า การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลถือว่าเป็นลิ้นกับฟัน เท่าที่ตนได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นความรุนแรง และไม่เข้าใจกัน มีแค่เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเคลียร์กันได้ และมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะไปกระทบกับเสถียรภาพและการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายสุวัจน์ กล่าวถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรคชาติพัฒนา ว่า ปีนี้ 70 ปีแลัว แล้วอายุก็มากแล้วก็ถือว่าเคานต์ดาวน์ทางการเมือง เพราะเวลาทางการเมืองเหลือน้อย หากมีอะไรที่จะตัดสินใจทางการเมือง ก็จะต้องคิดให้รอบคอบ และต้องตัดสินใจในแนวทางที่มั่นใจว่า แนวทางนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดมีพลังที่จะทำงานให้กับประเทศและประชาชนได้
เมื่อถามว่า ถ้าพูดแบบนี้เป็นการไม่ปิดทางไปรวมกับเพื่อไทยหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวย้ำว่า ก็ถือว่าอธิบายแบบนี้ว่ามีวิธีคิดคิดแบบนี้ เพราะอย่างที่ตนบอกว่าเป็นนักการเมืองมามากกว่า 30 กว่าปี ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกัน ในการใช้ประสบการณ์ ใช้พลังทางการเมืองในการแก้ไขปัญหาประเทศ และเมื่อถึงเวลาพวกเราก็คงตัดสินใจร่วมกันให้เป็นไปในแนวทางที่มีพลังทางการเมือง ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติได้ ส่วนจะไปอยู่ในจุดไหนรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน
นายสุวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่มีทายาททางการเมือง มีเพียงนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เท่านั้นที่ช่วยกันดูแลพรรค ยังไม่ได้อะไรขนาดนั้น