กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในแถลงการณ์ หลังประชุมร่วมกับคณะผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่น เตือนให้ระวังผลกระทบจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้นของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราในต่างแดน อาจกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ แนะนำให้รัฐบาลญี่ปุ่นและธนาคารกลางเฝ้าระวังผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอัตรากู้ยืมในตลาดเงิน และสภาพคล่องทางการเงินที่มีสัดส่วนไม่เท่ากันของธนาคารและสถาบันการเงิน หลังธนาคารกลางของญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ร้อยละ 0.5 จากร้อยละ 0.25 เมื่อ 24 มกราคม ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องชำระหนี้เงินต้น พร้อมดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในปี 2573 ขณะที่บริษัทเอกชนหลายแห่งอาจจะประสบปัญหาการเงินจนถึงขั้นประกาศภาวะล้มละลาย
IMF มองว่า การจัดทำกลยุทธ์การบริหารจัดการหนื้สาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องให้ความสำคัญในลำดับต้นๆเนื่องจากมีหนี้สินที่ต้องชำระเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นสามารถจะแก้ปัญหานี้ ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อระดมเงินทุนเพิ่มเติมจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันการเงินในประเทศ พร้อมคาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตร้อยละ 1.1 ในปีนี้ (2568) คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในอัตราที่ BOJ ตั้งเป้าไว้คือ ไม่เกินร้อยละ 2
IMF มองว่า การจัดทำกลยุทธ์การบริหารจัดการหนื้สาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องให้ความสำคัญในลำดับต้นๆเนื่องจากมีหนี้สินที่ต้องชำระเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นสามารถจะแก้ปัญหานี้ ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อระดมเงินทุนเพิ่มเติมจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันการเงินในประเทศ พร้อมคาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตร้อยละ 1.1 ในปีนี้ (2568) คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในอัตราที่ BOJ ตั้งเป้าไว้คือ ไม่เกินร้อยละ 2