ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ Center for Medical Genomics รายงานว่า จากสถานการรณ์โรคไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดหนักในเอเชียตะวันออก และมีผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นในญี่ปุ่นและไต้หวันช่วงต้นปี 2568 นั้น แต่ละประเทศได้ออกมาตรการรับมือที่หลากหลาย โดยประเทศไต้หวัน ขยายโครงการฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชนทุกคนอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป สัปดาห์ที่ 19-25 ม.ค.68 มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เข้ารับการรักษาสูงถึง 162,352 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.67 จนถึงต้นเดือนก.พ.68 พบผู้ป่วยอาการหนัก 667 ราย และเสียชีวิต 132 ราย ผู้ป่วยอาการหนักกว่าครึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปี ระบบสาธารณสุขรับมือหนัก ไวรัสที่ระบาดส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A โดยพบสายพันธุ์ย่อยที่สำคัญสองชนิด คือ A(H1N1)pdm09 ซึ่งพบการระบาดในโยโกฮาม่าเมื่อกันยายน 2024 โดยไวรัสที่แยกได้พบว่าดื้อต่อยา oseltamivir และ peramivir และสายพันธุ์ A(H3N2) ซึ่งพบการระบาดในกลุ่มเด็กที่เมืองหลินยี ประเทศจีน
ขณะที่ฮ่องกง พบผู้เสียชีวิต 88 ราย ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2568 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ทำให้ทางการต้องเน้นย้ำความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
ด้านประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คนไทยที่วางแผนเดินทางไปญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และจีน ควรเตรียมตัวให้พร้อม โดยฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ พกยารักษาไข้หวัดใหญ่ติดตัว และทำประกันสุขภาพเผื่อกรณีต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ประเทศตะวันตกอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ก็รายงานจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ฮ่องกง พบผู้เสียชีวิต 88 ราย ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2568 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ทำให้ทางการต้องเน้นย้ำความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
ด้านประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คนไทยที่วางแผนเดินทางไปญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และจีน ควรเตรียมตัวให้พร้อม โดยฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ พกยารักษาไข้หวัดใหญ่ติดตัว และทำประกันสุขภาพเผื่อกรณีต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ประเทศตะวันตกอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ก็รายงานจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน