นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 6 รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวภายหลังการประกาศความร่วมมือด้านการสนับสนุนกิจกรรมป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่า สืบเนื่องจากการเซ็น MOU ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อสร้างความโปร่งใส และหลักธรรมาภิบาล ที่ให้แต่ละหน่วยงานช่วยกันป้องกันเพิ่มระดับการป้องกันการทุจริต จึงเป็นที่มาในการลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา
นายศรชัย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช เห็นว่าการร่วมมือในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยป้องกันการทุจริตได้ ที่ผ่านมาเราได้มุ่งเน้นในส่วนของภาคประชาชนและภาครัฐไปแล้ว ซึ่งวันนี้เอกชนก็ต้องเข้ามาร่วมด้วย จึงร่วมกับ CAC และตั้งคณะกรรมการร่วมกัน จึงเป็นที่มาของแนวร่วมที่มี EXIM BANK เป็นตัวอย่างนำร่อง สร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาส่วนร่วม ทั้งการฝากดอกเบี้ย การฝากเงิน ที่มีมาตรฐานตามการประเมินของ CAC จึงเป็นที่มาของวันนี้ว่า เราจะสร้างเเรงจูงใจให้กับภาคเอกชนในการต่อต้านการทุจริต จากนี้ไป CAC และ ป.ป.ช. จะร่วมกันขับเคลื่อนในส่วนภาคเอกชนต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงการเรียกรับสินบนในภาคเอกชน ซึ่งจากการวิจัยต่างๆ พบว่า มีประเด็นเรื่องของการเรียกรับสินบน การเรียกรับการอนุญาตการสร้างโครงการต่างๆ ที่เห็นว่าวันนี้คงจะต้องโฟกัสกับภาคเอกชนให้ได้มากขึ้น และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะร่วมกันระหว่างภาคเอกชน และภาครัฐ เพื่อยกระดับการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตเพื่อให้เกิด Impact อย่างแท้จริง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี