เว็บไซต์ข่าวเอ็กซเพรสส์นิวส์ของอังกฤษ รายงานว่า ศาลเมืองเลสเตอร์ซิตี้ ประกาศผลไต่สวนอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.68) หลังคณะลูกขุนไต่สวนคดีอย่างละเอียดนาน 3 สัปดาห์ ว่า เหตุเฮลิคอปเตอร์เลโอนาร์โด AW169 ของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ และกลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์ ตกที่บริเวณด้านนอกสนามคิงเพาเวอร์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 ทำให้นายวิชัย เสียชีวิต พร้อมคนอื่นอีก 4 ราย คือ นุสรา สุขหน้าไม้ กวีพร พรรณแพร รวมถึงนักบินอีก 2 คน คือ อิสซาเบลลา โรซา เลโควิช และ เอริก สวอฟเฟอร์ เกิดจากข้อบกพร่องในการออกแบบเฮลิคอปเตอร์มาตั้งแต่ต้น
คณะลูกขุนระบุว่า มีการออกใบรับรองการซ่อมบำรุง ก่อนทำการบิน และพบว่า นายสวอฟเฟอร์ นักบิน พยายามควบคุมเฮลิคอปเตอร์ แต่ล้มเหลว โดยผลการชันสูตรระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิต 4 ใน 5 ราย เกิดจากการสูดดมควัน และหากไม่เกิดเพลิงไหม้หลังเฮลิคอปเตอร์ตก พวกเขามีโอกาสรอดชีวิต
นายมาร์ค จาร์วิส หัวหน้าทีมสอบสวนจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของอังกฤษ (AAIB) ระบุว่า นักบินทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้เฮลิคอปเตอร์ตก นักบินไม่สามารถควบคุมทิศทางการบินขณะบินเหนือพื้นดิน 430 ฟุต ก่อนที่เครื่องจะตกและไฟไหม้ ขณะบินออกจากสนามฟุตบอล ภายหลังจบการแข่งขันในวันเกิดเหตุ
นายแพทย์ไมเคิล บิกส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ขณะขึ้นบิน นักบินไม่มีรายงานเรื่องสุขภาพ เช่น อาการป่วย ในวันขับเฮลิคอปเตอร์
ขณะที่นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บุตรชาย ายวิชัย ให้การว่า นายวิชัย ซื้อเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวในราคา 7.5 ล้านยูโร ผลิตในปี 2560 มีการซ่อมบำรุงโดยบริษัท สโลน เฮลิคอปเตอร์ ของอังกฤษ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยการตรวจสภาพของเฮลิคอปเตอร์จะทำเดือนละ 2 ครั้ง และก่อนเกิดเหตุ ได้มีการตรวจสอบสภาพเฮลิปคอปเตอร์ เพียง 10 วัน มีชั่วโมงการบิน 330 ชั่วโมง
ด้านครอบครัวของนายวิชัย อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับบริษัท เลโอนาร์โด ผู้ผลิตเครื่องบินของอิตาลี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 2,150 ล้านปอนด์ โดยอ้างว่าบริษัทบกพร่องในการออกแบบระบบลูกปืนที่ใบพัดส่วนหางของเฮลิคอปเตอร์ ทำให้ระบบทำงานขัดข้องก่อนที่จะตกลงกลางสนามฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้