.
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ตอบกระทู้ถามเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 9 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ที่ห้องประชุมจันทรา อาคารรัฐสภา ว่า มีการดำเนินงานเชิงรุก โดยแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ แบ่งเป็น 3 ระดับ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 421/2567 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ดังนี้
1. ระดับชาติ โดยคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) เป็นประธานทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง หมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ควบคุม กำกับ เร่งรัด ติดตามการดำเนินงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. ระดับภาค จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาค โดยมีแม่ทัพภาค เป็นประธานทำหน้าที่อำนวยการและบูรณาการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและดับไฟ โดยเฉพาะในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด
3.ระดับจังหวัด ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานทำหน้าที่อำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง การตรวจสอบ กำกับ ควบคุมการประกอบกิจการ กิจกรรมที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดปัญหาภาวะมลพิษทางอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
.
รมว.ทส. กล่าวต่อว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่นคือ 1.ยานพาหนะ 2.การก่อสร้าง 3.โรงงานอุตสาหกรรม และ 4.การเผาของภาคการเกษตร ปัจจัยเหล่านี้ยังพอควบคุมได้ แต่ยังมีปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้คือ "ฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน" และ "ทิศทางลมที่พัดเข้าสู่กรุงเทพ" ประกอบกับสภาพอากาศปิด ทำให้เกิดฝุ่นมหาศาลช่วงที่ผ่านมา นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีความกดอากาศสูงจากจีนเข้าสู่ภาคอีสาน อากาศจะเย็นลง 2-5 องศาเซลเซียส ซึ่งลมจะช่วยผลักดันอากาศเสียออกไป ดังนั้นในสัปดาห์นี้ สภาพอากาศจะกลับมาดีขึ้น เราโชคดีที่ลมเปลี่ยนทิศ แสดงให้เห็นว่า ปัจจัยภายนอกมีความสำคัญต่อสภาพฝุ่นไม่น้อยกว่าปัจจัยภายใน
รมว.ทส. กล่าวเน้นว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายงานให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบ บูรณาการการทำงานให้เกิดผลชัดเจน ได้แก่ ก.อุตสาหกรรม ก.ทรัพยากรฯ ก.พาณิชย์ ก.เกษตรฯ ก.กลาโหม ก.คมนาคม ก.มหาดไทย ก.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก.ต่างประเทศ และก.สาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามมาตรการเร่งด่วน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นได้ขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วน เช่น
.
1.จัดให้มี Work from Home
2.ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า - ค่ารถเมล์
3.ปฏิบัติการฝนเทียม ตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด
4.จัดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับรับแจ้งเหตุการเผา
5.กวดขันรถควันดำ และพื้นที่ก่อสร้าง ที่ไม่คลุมผ้าป้องกันฝุ่นตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
สำหรับมาตรการระยะยาว ก.ทรัพยากรฯ ดูแลรับผิดชอบในส่วนของพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ได้มีการวางมาตรการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยมีเป้าหมายลดการเผาไหม้ในพื้นที่ป่าให้ได้ 25% จากปี 2567
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ได้มีการประชุมซักซ้อมการป้องกันและรับมือปัญหาไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังควบคุมไฟป่า และหมอกควันภาคเหนือ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ จังหวัดเชียงใหม่
.
และวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ได้มีการประชุมร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี และกรุงเทพมหานคร ตำรวจนครบาล ตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก เพื่อวางมาตรการแนวทางการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
การแก้ปัญหาฝุ่นต้องเอาทุกปัจจัยมาแก้ไปพร้อมกัน ทั้งเรื่องยานพาหนะ เวิร์คฟอร์มโฮม อัตราการนำรถส่วนตัวมาใช้ในเขตเมือง น้อยลง 30-40% ต้องทำไปพร้อมกัน ทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่งแก้ไขไม่ได้ การทำให้ฝุ่นหมดไปเป็นเรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรให้อยู่ในระดับไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน
“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ทำเต็มที่ รัฐบาลพยายามหามาตรการเพื่อลดผล กระทบ เวลาคนเกิดอุบัติเหตุ ต้องได้รับการรักษาทางวิทยาศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นเขายังต้องไปบนบานด้วยไสยศาสตร์เลย ดังนั้นการแก้ไขปัญหามลพิษ มันมีหลายส่วน มันไม่สามารถลดได้ 100% แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของมลพิษ น้ำแก้วหนึ่งที่ออกไป 1 หยด มันก็ไม่เต็มแก้วแล้ว เพราะฉะนั้น ปัญหาทุกอย่างผมเห็นว่ารัฐบาลรับฟังและเราพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น สิ่งที่ท่านได้เสนอมา ตอนนี้รัฐบาลก็ฟังทั้งหมด เราดำเนินการอย่างเต็มที่ เราไม่ต้องการเห็นพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ” รมว.ทส. กล่าว