นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อยู่ระหว่างร่างกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรมขนาดกลาง เพื่อดึงที่พักขนาดเล็ก อาทิ โฮมสเตย์ เกสเฮาส์ โฮสเทล เข้าระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย คาดว่าจะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาได้ประมาณช่วงเดือนมีนาคม 2568 หรือก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ หลังผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ เมื่อผ่านการประชุมสภาฯ วาระแล้วในการตั้งกรรมการมาธิการวิสามัญ พ.ร.บ. โรงแรมขนาดกลาง จะเชิญผู้ประกอบการภาคการโรงแรม โฮสเทล เกสเฮาส์ ร่วมเป็นกรรมมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า พ.ร.บ.โรงแรม ฉบับใหม่นี้ คาดว่าจะมีพรรคการเมืองประมาณ 2-3 พรรค ที่จะยื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ รวมถึงร่างของคณะรัฐมนตรี และเมื่อ พ.ร.บ. ฉบับนี้ประกาศใช้คาดว่าจะมีโรงแรมเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมประมาณ 1,000 แห่ง ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีความพร้อมแต่ยังติดขัดข้อกฎหมายบางข้อ เช่น ระยะของสิ่งแวดล้อม ความสูงของอาคาร เป็นต้น ส่วนโรงแรมขนาดเอส เอ็ม ซึ่ง เป็นโรงแรมที่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในระบบรวมทั้งสิ้นจำนวน 90,000 แห่ง หากในในอนาคตสามารถดึงโรงแรมเหล่านี้เข้าระบบได้จะสามารถสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้ รวมถึงเก็บมูลค่าใช้จ่ายในการเข้าพักของนักท่องท่องเที่ยวได้ด้วย
สำหรับรายละเอียดของร่างกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรมขนาดกลาง จะเป็นการแก้ไขเรื่องของการร่นระยะของรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชายหาด เช่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเว้นระยะความสูงของผังเมืองในพื้นที่ภาคเหนือ ดังนั้นจะเชิญกรมโยธาและผังเมือง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาหารือ เพื่อให้เป็นกฎหมายที่ดีที่สุด
ขณะที่โครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซัน ตอนนี้ชัดแล้วว่าจะใช้ชื่อว่า "โครงการไทยเที่ยวด้วยกัน" ซึ่งจะเริ่มเปิดใช้สิทธิ์ได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 จำนวน 1 ล้านสิทธิ์ โดยครั้งนี้ถือเป็นเฟส 6 และอาจจะเปลี่ยนแค่ชื่อแอปพลิเคชัน ส่วนเงื่อนไขของโครการและจำนวนสิทธิ์นการเข้าร่วม โปรโมชันอาจจะไม่ต่างจากเดิม รวมถึงโรงแรม ผู้ประกอบการที่จะมาลงทะเบียนใหม่