นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ และเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อเที่ยงวันนี้เดียวกัน จากนั้นในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีได้ติดตามผลจากข้อสั่งการในการแก้ปัญหา PM2.5 ฝุ่นควันอย่างใกล้ชิด ทั้งการดำเนินการเร่งด่วนและมาตรการระยะกลาง ระยะยาว โดยย้ำให้เป็นวาระแห่งชาติและวาระแห่งอาเซียน
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงมหาดไทยนำรูปแบบของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา นำมาปรับรูปแบบการทำงานในศูนย์บัญชาการหลักในการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันครั้งนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(บก.ปภช.) ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้ลงนามตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมที่เคยเป็นคณะกรรมการใน ศปช. เพื่อระดมกำลังในการบริหารจัดการเรื่องฝุ่นควันแล้ว ให้เป็นที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) ซึ่งนับจากนี้ จะเรียกว่า ปภ.ช. เมื่อคืนที่ผ่านมา
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงมหาดไทยนำรูปแบบของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา นำมาปรับรูปแบบการทำงานในศูนย์บัญชาการหลักในการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันครั้งนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(บก.ปภช.) ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้ลงนามตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมที่เคยเป็นคณะกรรมการใน ศปช. เพื่อระดมกำลังในการบริหารจัดการเรื่องฝุ่นควันแล้ว ให้เป็นที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) ซึ่งนับจากนี้ จะเรียกว่า ปภ.ช. เมื่อคืนที่ผ่านมา