ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังได้ทดสอบจำหน่ายสลากฯ ตัวเลขสามหลัก (สลาก N3) ผ่านระบบ Sand Box ตั้งแต่งวด 16 ตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน รวม 7 งวด นับว่า สลาก N3 ไม่ได้แย่งตลาดกับสลากดิจิทัล L6 แม้ว่ายอดขายไม่สูงนักประมาณ 1 ล้านรายการ นับว่าสอดคล้องกับภาวาะตลาด เพราะยังมีแหล่งซื้อไม่สะดวก จึงต้องเน้นสร้างการรับรู้และความเข้าใจผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับประชาชนที่สนใจ รวมถึงระบบการจำหน่ายผ่านจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 รูปแบบเกมส์การเล่น วิธีการจำหน่าย เงื่อนไขประเภทรางวัล โอกาสการถูกรางวัลทั้ง 4 ประเภท คือ สามตรง สามสลับหลัก สองตรง และรางวัลพิเศษ ตลอดจนกระบวนการรับเงินรางวัล หากผู้ซื้อมากขึ้นเงินรางวัลจะสูงขึ้นตามไปด้วย
บอร์ดสลากฯ จึงเร่งให้ออกรางวัลเเร็วกว่ากำหนดเดิม จากเดิมเริ่มจำหน่ายในเดือนเมษายน 2568 โดยให้ ทดสอบการจำหน่ายในระบบ Sand Box เฟส 2 ผ่านตัวแทนจำหน่าย ในรูปแบบ Soft Launch ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มีนาคม 2568 หรือเริ่มจำหน่าย 2 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 กลุ่มแรก คือ 1.ตัวแทนโครงการสลาก 80 จำนวน 819 ราย และ 2. กลุ่มผู้พิการตัวแทนจำหน่ายสลาก L6 ดิจิทัล จำนวน 986 ราย รวมจำนวน 1,805 ราย ทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มคนพิการเดินเร่ขายให้ถึงมือนักเสี่ยงโชค เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้มากและสะดวกกกว่าเดิม โดยยังแสกนจ่ายเงินในการซื้อเลขท้าย 2-3 ตัว หรือ N3 ผ่านแอปเป๋งตัง เมื่อให้ผู้พิการร่วมทดลองไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้น จะเริ่มเฟส 3 โดยเปิดรับสมัครเพิ่มเติมตามคุณสมบัติกำหนด
ทั้งนี้ การจำหน่ายสลาก N3 ในระบบแซนด์บ็อกซ์เฟส 2 ผ่านตัวแทนจำหน่ายจริง และเดินจำหน่ายจริงใช้ประเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยตัวแทนจำหน่ายจะใส่เสื้อกั๊ก มีสัญลักษ์เป็นตัวแทนจำหน่าย และแสกนซื้อผ่าน QR-Code กำหนดแผนจำหน่าย 5 ล้านรายการต่องวด ตัวแทนจำหน่าย ได้รับส่วนแบ่งร้อยละ 10 ของราคาสลาก N3 ต่อรายการ หรือ 2 บาทต่อรายการละ 20 บาท เมื่อรวมกับสลาก L6 ที่ได้รับไปจำหน่ายเดือนละ 10 เล่ม จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับตัวแทนประมาณ 15,000 บาท ต่อเดือนในกรณีที่สามารถจำหน่ายได้ครบ นับว่าเป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับตัวแทนรายย่อย เพราะถือว่าการขายสลาก N3 ไม่ต้องลงทุนจ่ายเงินล่วงหน้า ขายได้เท่าไร ได้เปอร์เซ็นต์ตามยอดขายน ยอดขายมากยิ่งได้เงินมาก
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า รูปแบบการจำหน่าย ในส่วนของจุดจำหน่ายสลาก 80 จะเหมือนเดิมจากเฟสแรก ต้องซื้อ ณ จุดจำหน่าย ทำรายการผ่านอุปกรณ์ และชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ส่วนตัวแทนจำหน่ายผู้พิการ จะใช้วิธี "เดินจำหน่าย" มีบัตรประจำตัวเพื่อแสดงตน และสวมชุดยูนิฟอร์มที่สำนักงานสลากฯ กำหนด แต่ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับการจำหน่าย เพราะจะมีคิวอาร์โค้ด ผู้ซื้อสามารถสแกนเพื่อทำรายการตรวจสอบข้อมูลตัวแทนนั้นๆ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวง จากนั้นจึงทำรายการซื้อสลากได้ทั้งสลาก L6 และ สลาก N3 ได้ โดยชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเช่นเดียวกัน
สำนักงานสลากฯ จะนำผลทดลองขายสลาก N3 ในเฟส 2 นำมาประมวลผล และเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 เพิ่มเติมอีกครั้ง กลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่ม ตัวแทนจำหน่าย L6 แบบดิจิทัล มีจำนวน 49,888 ราย เนื่องจากมีความคุ้นเคยในการจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ยอมรับว่า สลาก N3 หากมียอดขายเพิ่ม เงินรางวัลจะแปรผันเพิ่มเติมตามไปด้วย สอดกับการกับการขายสลากดิจิทัล L6 นับว่าประชาชน เริ่มคุ้นชินกับการซื้อสลากผ่านออนไลน์มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่คู่แข่งกับหวยใต้ดิน แต่ดึงสลากใบมีปัญหาเกินราคาให้ปรับลดลง และสลากเกินราคาจะเริ่มปรับลดลงโดยอัตโนมัติ สนง.สลากฯยังเตรียมเพิ่มสัดส่วนสลากดิจิทัล กลางงวดออกรางวัล 1 กุมภาพันธ์นี้ เพิ่มจาก 25 ล้านฉบับ เป็น 27 ล้านฉบับ/งวด
พ.ท.หนุน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสี่ยงโชคในทั่วโลก มีอยู่ 5 ประเภท คือ
1. การเสี่ยงโชคผ่านสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นรูปแบบจัดพิมพ์สลากเอาไว้ล่วงหน้าในปัจจุบัน
2. เกมส์ดิจิทัลแบบ N3 ทดลองขายอยู่ในปัจจุบัน ยอดเงินรางวัลจะแปรผันไปตามยอดซื้อ
3. สลากล็อตโต้ เป็นการออกแบบเลข 40 ตัว เพื่อให้เลือก 6 ตัว หรือ 50 ตัวให้เลือก 7 ตัว หากไม่มีใครถูก เงินรางวัลจะสะสมไปเรื่อยๆ จึงเห็นยอดเงินรางวัลในสหรัฐหรือต่างประเทศ สูงนับหมื่นล้านบาท
4. การออกรางวัลแบบสลากขูด เป็นการออกรางวัลเอาไว้ล่วงหน้า
5. การทายผลกีฬา ทราบผลแพ้ชนะเมื่อ การแข่งขันจบสิ้นลง ตามกฎหมายของ สนง.สลากฯ จัดทำการออกรางวัลเสี่ยงได้ตามกฎหมาย หากทำเครื่องมือคาสิโน ต้องแก้ไขกฎหมาย จึงเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาลในอนาคต