นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ข้อมูลเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th รายงานสถิติผู้เข้ามาชมเว็บไซต์ จำนวนกว่า 31 ล้านครั้ง ณ เวลา 24.00 น. ของวันที่ 17 มกราคม ทะลุ 30 ล้านครั้งภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 17 มกราคม 2568
ขณะเดียวกัน มีผู้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ที่ลงทะเบียนได้ 152,864 คน และที่ผ่านการกลั่นกรองคุณสมบัติเบื้องต้น (Pre-Approve) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 49,844 ราย ทำเลที่มีคนลงทะเบียนมากที่สุด คือ พื้นที่กม.11 (วิภาวดี) พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ธนบุรี (ศิริราช) และพื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี ตามลำดับ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่างรู้สึกยินดีที่กระแสตอบรับโครงการบ้านเพื่อคนไทยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
สำหรับประชาชนที่เดินทางมาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ล้นหลามเช่นกัน ทำให้เห็นความชัดเจนของรูปแบบโครงการฯ ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่ต้องการอยากจะมีบ้านที่มีคุณภาพ ในทำเลที่ดี ใกล้กับระบบขนส่งมวลชนทางราง พร้อมย้ำว่าโครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นการให้สิทธิเช่าอยู่อาศัยในระยะยาว ผ่อนเริ่มต้น 4,000 บาท โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น ชุดรับแขก โต๊ะกินข้าวตู้เสื้อผ้า และเตียงนอน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การเยี่ยมชมโครงการฯ และลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ทำได้ 2 รูปแบบ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ได้แก่ 1. เดินทางไปชมตัวอย่างห้องได้ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 ในเวลาทำการ 10.00 – 21.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ หลังจากนั้นจะปรับวันและเวลาเข้าชม ให้มีความเหมาะสมกับปริมาณผู้เข้าชมในแต่ละวัน
2. เข้าเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th โดยผู้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ คือ เป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน, เป็นผู้มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาท ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยทุกประเภท และไม่เคยมีสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย หากมีคุณสมบัติครบก็มีโอกาสได้รับสิทธิจากโครงการฯ จากนั้นจะเข้าสู่การยื่นพิจารณาสินเชื่อกับ ธอส. เพื่อตรวจสอบสินเชื่อ และเข้าสู่ระบบจับฉลากเพื่อรับสิทธิในลำดับต่อไป โดยมีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ดำเนินการในลำดับต่อไป ส่วนคนที่ไม่ได้ผ่าน Pre-Apprve สามารถเข้าโรงเรียนการเงินของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ครับ
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อกับผู้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ ทุกราย และพร้อมใช้ศักยภาพของ ธอส. ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงผู้ที่เริ่มทำงาน First Jobber หรือคนที่อยู่ในวัยทำงานที่กำลังพยายามเก็บเงินซื้อบ้าน มีบ้านเป็นของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ ธอส. ยังพร้อมสนับสนุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่ดีตามพันธกิจของธนาคารอย่างต่อเนื่องต่อไป