xs
xsm
sm
md
lg

กทม.ก้าวสู่เมืองน่าลงทุนอันดับที่ 34 ของโลก จากอันดับ 45

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวในโอกาสที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าลงทุนระดับโลก อันดับที่ 34 ซึ่งสำนักข่าว Bangkok Post ได้รายงานว่า กรุงเทพฯ ก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index - GCI) ปี 2024 จากการจัดอันดับของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลก Kearney โดยขยับขึ้นถึง 11 อันดับ สู่อันดับที่ 34 จากเดิมอยู่อันดับที่ 45 ถือเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในบรรดา 50 เมืองชั้นนำทั่วโลก เป็นผลมาจากการพัฒนาในด้านกิจกรรมทางธุรกิจ ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร

ทั้งนี้ โดยความก้าวหน้าด้านกิจกรรมทางธุรกิจของกรุงเทพฯ มีปัจจัยหลักมาจากตัวเลขการขนส่งทางทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ที่หลายเมืองเผชิญปัญหาการขนส่งทางทะเลที่หยุดชะงักและความท้าทายอื่นๆ ที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนความยืดหยุ่นในมิตินี้ นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนบริษัทบริการชั้นนำระดับโลกในกรุงเทพฯ ยังช่วยยกระดับอันดับด้านกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวม สะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและน่าดึงดูด รวมถึงชื่อเสียงของ กรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้นในฐานะศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ อันเป็นผลมาจากความสะดวกในการดำเนินธุรกิจและความน่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุน เรียกได้ว่า รายงานการจัดอันดับนี้ ตอกย้ำความน่าดึงดูดของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับการให้บริการธุรกิจนอกประเทศ

สำหรับดัชนี GCI จะประเมินเมืองต่างๆ โดยใช้เกณฑ์ ประกอบด้วย 1.กิจกรรมทางธุรกิจ 2.ทุนมนุษย์ 3.การแลกเปลี่ยนข้อมูล 4.ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และ 5.การมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยใช้ตัวชี้วัด 31 รายการ และในปี 2024 มีการนำเกณฑ์การวัดใหม่ ๆ มาใช้ เช่น ความพร้อมด้านดิจิทัลและการเคลื่อนย้ายของมนุษย์ เป็นต้น

ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ตัวชี้วัดใหม่ด้านความเร็วอินเทอร์เน็ตส่งผลดีต่อกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งเราได้รับการจัดอันดับที่ 8 ของโลกในหมวดหมู่นี้ ส่วนด้านประสบการณ์ทางวัฒนธรรม ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ความหลากหลายของอาหาร และศิลปะการแสดงและทัศนศิลป์ ล้วนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเช่นกันครับ

อย่างไรก็ตาม ในรายงานของ Kearney ระบุด้วยว่า เพื่อไต่อันดับให้สูงขึ้น กรุงเทพฯ จำเป็นต้องเร่งจัดการกับข้อท้าทายสำคัญสองประการ คือ 1.การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมความเท่าเทียมทางสังคม และ 2.การเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนวัตกรรม