นายวันมูหะะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน ตัวแทนวุฒิสภา และ ตัวแทนคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือกำหนดเวลาในการ พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า จะให้มีการพิจารณา ร่าง รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ และน่าจะลงมติวาระที่ 1 ได้ใน วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักพอดี อาจจะเป็นการประชุมที่เต็มไปด้วยความรักต่อประชาชน และเมื่อครบกำหนด 180 วันแล้ว ก็สามารถนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบไปทำประชามติ ตามกฎหมายประชามติ ที่สภาผู้แทนราษฎรยืนยันได้ และตามกฎหมายนี้ จะต้องทำประชามติ 2 ครั้ง โดยหากผ่านวาระสามแล้ว จะต้องไปถามประชาชน ว่าเห็นชอบกับการให้มี ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ หากประชาชนเห็นชอบจึงจะทำการเลือก ส.ส.ร.ได้ และเมื่อร่าง เสร็จแล้วนำมาผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้วจึงจะไปถามประชาชนอีกรอบหนึ่ง ถ้าประชาชนเห็นชอบก็เป็นไปตามขั้นตอน รอนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นชอบก็ถือว่าจบกันไป และถือว่าทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า การเลื่อนเวลาไปอีก 1 เดือน โดยไปพิจารณาในกุมภาพันธ์ ไม่กระทบกับกรอบเวลา เนื่องจากแม้พิจารณาเสร็จเร็ว ก็จะต้องรอ ร่าง พ.ร.บ.ประชามติครบ 180 วัน ซึ่งเหลือเวลาอีกร้อยกว่าวัน เพื่อจะต้องทำประชามติ ถามประชาชน ดังนั้นคิดว่าพิจารณาด้วยความรอบคอบทุกสาระกระบวนความและทุกฝ่าย ร่วมพิจารณาด้วยความรอบคอบก็ไม่ถือว่าช้าเกินไป เพราะตนอยากให้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยดี และทุกคนรับผิดชอบร่วมกัน
ส่วนจะมีความหวังได้รัฐธรรมนูญใหม่ทันสภาชุดนี้หรือไม่นั้นนายวันมูหะะมัดนอร์ กล่าวว่า ในขั้นตอนนี้ยังไม่สามารถจะพูดได้ว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ จบวาระสาม และการให้ความเห็นชอบ หลังจากที่ ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว อีกทั้งประชาชนก็จะต้องให้ความเห็นชอบด้วย อย่างน้อย 2 รอบ ฉะนั้นทั้งหมดเป็นความหวังว่าน่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่หน้าตาจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบว่า ส.ส.ร. จะยกร่างมาอย่างไร แต่ต้องอยู่ในกรอบที่รัฐธรรมนูญ 2564 ที่บัญญัติไว้ประกอบกับการแก้ไขมาตรา 256
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เหตุที่ต้องทอดเวลาออกไปอีกหนึ่งเดือนเพราะมองว่ารัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสำคัญ มีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งร่างกฎหมายที่เสนอเข้ามาทาง สว. ก็ยืนยันว่าจะต้องขอไปพิจารณาศึกษาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะรัฐมนตรี จะไม่มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 แต่จะให้โอกาสพรรคการเมืองอื่น ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงร่างแก้ไขของพรรคเพื่อไทยให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อให้แต่ละพรรคที่คิดจะแก้ไขได้ไปเตรียมการและเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้ามาให้สภาพิจารณา จึงต้องให้โอกาสทุกพรรคไปทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาอยู่
ส่วนที่มองกันว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลเหตุใดจึงไม่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยคณะรัฐมนตรีนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค และได้พูดคุยกันแล้ว บางพรรคก็ยังไม่พร้อม ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้พรรคร่วมรัฐบาลว่าหากไหนพร้อมที่จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็ยินดี และถือว่าทำงานร่วมกัน
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ความจริงแล้วฝ่ายค้านไม่ค่อยเห็นด้วยกับการทอดเวลาออกไป โดยอยากให้เลื่อนไปแค่ 2 สัปดาห์ เพื่อจะได้มีเวลา ในชั้นกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ก็เข้าใจดีในเหตุผลที่ทางวุฒิสมาชิก ขอเวลาในการศึกษาร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน จึงพบกันครึ่งทาง และเราก็คิดว่าไม่ได้กระทบกับกรอบเวลามากนัก เพราะในชั้นกรรมาธิการฯก็สามารถนัดประชุมบ่อยขึ้นได้ ดังนั้นแม้เห็นไม่ตรงกัน แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ยืนยันว่า ในส่วนของ สว. ไม่มีสัญญาณอะไรในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนเป็นอิสระ แต่เห็นว่าเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ และเท่าที่คุยกันนอกรอบกับพรรคเพื่อไทย บอกว่าจะมีร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญประกบเข้ามาอีก ทาง สว. ต้องใช้เวลาในการศึกษา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเท่าที่พูดคุยกันในส่วนของ สว. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพราะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้แล้ว กังวลว่าจะเสี่ยง ดังนั้น สว.จึงต้องการศึกษาให้ละเอียดก่อน และแน่นอนว่า หากไม่ชัดเจน คงไม่โหวตให้ เพราะเรื่องนี้มีทั้ง สว. เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว