นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) นัดแรกของปี 2568 คาดว่าที่ประชุมจะหารือถึงการจัดสรรเงินงบประมาณลงไปยังกองทุนหมู่บ้านฯ กว่า 7.9 หมื่นแห่ง ทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้ 11,900 ล้านบาท
น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ในการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ครั้งนี้ ที่ประชุม กทบ. จะพิจารณาการอัดฉีดเงินลงไปยังกองทุนหมู่บ้านฯ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเตรียมพิจารณาระเบียบการจัดสรรงบประมาณของกองทุนหมู่บ้าน วงเงินรวม 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งผลักดันโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน หรือ SML ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเอาไว้ในช่วงการแถลงผลงานรัฐบาล 3 เดือน ว่า รัฐบาลพร้อมฟื้นโครงการเอสเอ็มแอล โดยตั้งเป้าหมายกระจายเงินลงไปสู่อำเภอและหมู่บ้าน โดยการจัดสรรเงินจะจัดสรรให้ตามขนาดของหมู่บ้าน
สำหรับโครงการ SML นับว่าเป็นหนึ่งในนโยบายที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยจัดสรรวงเงินลงมาให้ประมาณ 30,000 ล้านบาท ก่อนจะหยุดไปและมาเริ่มดำเนินการอีกครั้งในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยรัฐบาลได้จัดสรรเงินลงไปให้กับหมู่บ้านตามสัดส่วนตามที่รัฐบาลประกาศหลักเกณฑ์ของขนาดหมู่บ้านออกมา คือ หมู่บ้านขนาดเล็ก ได้รับ 300,000 บาท ขนาดกลาง ได้รับ 400,000 บาท และขนาดใหญ่ ได้รับ 500,000 บาท
ส่วนอีกเรื่องที่คาดว่าจะนำเสนอในการประชุม กทบ. ครั้งนี้ คือการพิจารณาระเบียบของโครงการโคแสนล้าน ซึ่งเป็นการสานต่อโครงการเดิมจากรัฐบาลที่แล้ว มีสาระสำคัญคือหารปล่อยสินเชื่อให้กองทุนหมู่บ้านฯ สำหรับให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ กู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงโค จำนวน 1 แสนครัวเรือน หรือ ครัวเรือนละ 50,000 บาท
สำหรับสถานะปัจจุบันของกองทุนหมู่บ้านฯ มีอยู่กว่า 79,610 แห่งทั่วประเทศ และสมาชิกกว่า 13 ล้านคน ที่ผ่านมารัฐบาลมั่นใจว่า กองทุนหมู่บ้านฯ ถือเป็นกำลังหลักในการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยนโยบายของรัฐบาลได้เน้นให้กองทุนเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ภายในชุมชน