นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทเรื่องพื้นที่เขากระโดง หลังนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ กรมที่ดิน ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม โดยระบุว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก้าวล่วงสิทธิ์ของชาวบ้าน เพราะอยู่มาก่อน การรถไฟฯ ขณะที่ รฟท. ก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่าที่ดินดังกล่าว 5,000 กว่าไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ ว่า ตนได้ติดตามเหตุการณ์ดังกล่าว และได้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าวของ รฟท. แล้วจึงได้โทรไปสอบถามอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งท่านยืนยันว่า ไม่ใช่แบบที่ รฟท. อ้าง และได้อธิบายไปหลายครั้งแล้ว รวมถึงที่ผ่านมาก็ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกาและศาลปกครองครบถ้วน จนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครอง หลังกรมที่ดินรายงานข้อสรุปของคณะกรรมการตามมาตรา 61 ที่ไม่เพิกถอนที่ดินของชาวบ้าน ว่าศาลปกครองจะมีความเห็นอย่างไร
นายอนุทิน เปิดเผยด้วยว่า ตนได้ถามอธิบดีกรมที่ดิน ว่า หากตัวเองไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และไม่มีเครือข่ายอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ผลของคณะกรรมการตามมาตรา 61 อธิบดีกรมที่ดินจะวินิจฉัยออกมาเช่นนี้หรือไม่ ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่าผลก็จะเป็นเช่นนี้ พร้อมยอมรับว่า กรณีตัวเองมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำให้งานของอธิบดีกรมที่ดินลำบากขึ้นด้วย ต้องมานั่งแบกเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะทำให้อยู่ในความสนใจของประชาชน
นายอนุทิน กล่าวว่า ในเมื่อเรื่องเขากระโดง แต่ละฝ่ายทั้งกรมที่ดิน และ การรถไฟฯ มีจุดยืนของตัวเองแตกต่างกัน รวมถึงประชาชนบนเขากระโดงก็มีสิทธิ์ในการปกป้องความชอบธรรมของตัวเอง เมื่อ 3 จุดนี้ไม่ตรงกัน และขณะนี้เรื่องขึ้นอยู่ในชั้นศาลแล้ว ก็ควรรอให้ศาลตัดสิน ทั้งนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการว่าให้กรมที่ดิน ห้ามทำอะไร เข้าข้างฝ่ายใดหรือให้การช่วยเหลือเกื้อกูลใครโดยเด็ดขาด