กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ชวนร่วมมือลดขยะ เปิดรับลงทะเบียนโครงการ บ้านนี้ไม่เทรวม แยกขยะลดค่าธรรมเนียม ผ่านแอป BKK Waste Pay ก่อนบังคับใช้จริงกลางปี 2568 โดยนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานคร จะมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ การปรับอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมใหม่นี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1: สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัมต่อวัน หากคัดแยกขยะและลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่กรุงเทพมหานครกำหนด จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเดือนละ 20 บาท (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 10 บาท และค่ากำจัด 10 บาท) แต่หากไม่คัดแยกขยะ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเดือนละ 60 บาท (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 30 บาท และค่ากำจัด 30 บาท)
กลุ่มที่ 2: สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะเกิน 20 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือเกิน 4 กิโลกรัมต่อวัน แต่ไม่เกิน 200 กิโลกรัมต่อวัน จะต้องชำระค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 60 บาทต่อ 20 ลิตร และค่ากำจัด 60 บาทต่อ 20 ลิตร)
กลุ่มที่ 3: สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือเกิน 1,000 ลิตร หรือเกิน 200 กิโลกรัมต่อวัน จะต้องชำระค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 3,250 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร และค่ากำจัด 4,750 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร)
สำหรับค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะสำหรับบ้านเรือนทั่วไป มีอัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกันตามการคัดแยกขยะดังนี้ สำหรับบ้านเรือนที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 4 กิโลกรัมต่อวัน หากดำเนินการคัดแยกขยะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะชำระค่าธรรมเนียมเพียงเดือนละ 20 บาท แต่หากไม่ดำเนินการคัดแยกขยะ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมในอัตราเดือนละ 60 บาท
ประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ บ้านนี้ไม่เทรวม แยกขยะลดค่าธรรมเนียม สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ข้อบัญญัติจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 180 วัน จึงจะมีผลบังคับใช้ และเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมตามอัตราใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2568
ทั้งนี้ เมื่อข้อบัญญัติมีผลบังคับใช้แล้ว ระบบของแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay จะทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า
กลุ่มที่ 1: สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัมต่อวัน หากคัดแยกขยะและลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่กรุงเทพมหานครกำหนด จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเดือนละ 20 บาท (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 10 บาท และค่ากำจัด 10 บาท) แต่หากไม่คัดแยกขยะ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเดือนละ 60 บาท (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 30 บาท และค่ากำจัด 30 บาท)
กลุ่มที่ 2: สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะเกิน 20 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือเกิน 4 กิโลกรัมต่อวัน แต่ไม่เกิน 200 กิโลกรัมต่อวัน จะต้องชำระค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 60 บาทต่อ 20 ลิตร และค่ากำจัด 60 บาทต่อ 20 ลิตร)
กลุ่มที่ 3: สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือเกิน 1,000 ลิตร หรือเกิน 200 กิโลกรัมต่อวัน จะต้องชำระค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ประกอบด้วยค่าเก็บและขน 3,250 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร และค่ากำจัด 4,750 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร)
สำหรับค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะสำหรับบ้านเรือนทั่วไป มีอัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกันตามการคัดแยกขยะดังนี้ สำหรับบ้านเรือนที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 4 กิโลกรัมต่อวัน หากดำเนินการคัดแยกขยะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะชำระค่าธรรมเนียมเพียงเดือนละ 20 บาท แต่หากไม่ดำเนินการคัดแยกขยะ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมในอัตราเดือนละ 60 บาท
ประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ บ้านนี้ไม่เทรวม แยกขยะลดค่าธรรมเนียม สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ข้อบัญญัติจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 180 วัน จึงจะมีผลบังคับใช้ และเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมตามอัตราใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2568
ทั้งนี้ เมื่อข้อบัญญัติมีผลบังคับใช้แล้ว ระบบของแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay จะทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า