นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ผอ.ศปช.) ได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ขณะนี้มีพายุลูกใหม่ก่อตัวในทะเลจีนใต้และมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลง ซึ่งพายุดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ช่วงวันที่ 25-26 ธันวาคม 2567 พื้นที่ภาคใต้อาจมีฝนเพิ่มขึ้นได้จากอิทธิพลของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ และฝนจะตกหนักขึ้นในช่วง 28-30 ธ.ค. 67 ประกอบกับหลายพื้นที่ของภาคใต้ดินมีลักษณะชุ่มน้ำจากฝนที่ตกสะสมก่อนหน้านี้ หากเกิดฝนตกซ้ำอาจเกิดน้ำหลากหรือดินถล่มได้ง่าย ที่ประชุม ศปช. จึงได้ย้ำให้ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักรกลบรรเทาสาธารณภัยประจำการในพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมซ้ำซาก และพื้นที่ลาดชัน
นายภูมิธรรม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับฝนที่จะมาในช่วงสิ้นปีอยู่แล้ว ดังนั้น หากจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ก็สามารถใช้กำลังคนและเครื่องจักรกลที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์อุทกภัยก่อนหน้านี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 1,686 นาย พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ 1,195 หน่วย เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์
ทั้งนี้ นางสาวศศิกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์น้ำจะเริ่มคลี่คลาย แต่การฟื้นฟูความเสียหายต่างๆ ยังมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ตรวจเยี่ยม "ศูนย์ซ่อม สร้าง สุข กรมพัฒน์จัดให้" ที่ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ระดมบุคลากรด้านการศึกษาและช่างจิตอาสาจาก 14 จังหวัดภาคใต้กว่า 300 คน ให้บริการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือทำมาหากินและรถจักรยานยนต์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้ผู้ประสบอุทกภัยได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว