นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปี 2567 ว่า ล่าสุดมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้วกว่า 33 ล้านคน โดยเชื่อว่า ณ สิ้นปี จำนวนนักท่องเที่ยวจะเกินเป้า 35 ล้านคน ที่วางไว้แน่นอน และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ราว 1.7 ล้านล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวไทย คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 197-198 ล้านคน/ครั้ง ซึ่งรอลุ้นว่าช่วงปลายปีอาจจะไปได้ถึง 200 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 9 แสนล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 รวมทั้งสิ้น 2.6-2.7 ล้านล้านบาท
ล่าสุด นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยประมาณวันละ 130,000 คน และมีวันที่นิวไฮคือเกือบ 150,000 คน/วัน ยังมีตลาดระยะไกลที่อาจกลับเข้ามา โดยวันพุธนี้ (25 ธ.ค.) อาจจะเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ เข้าไทยแตะ 1 ล้านคน และยังมีตลาดอื่นๆ ที่จะทำนิวไฮอีก เช่น ตลาดไต้หวัน เป็นต้น
ส่วนสาเหตุที่รายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 3 ล้านล้านบาท มาจากหลายปัจจัย ทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เงินบาทแข็งค่า และภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังเติบโตไม่ดี
สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 ตั้งไว้ที่ 40 ล้านคน หรือกลับมาเท่าระดับเดิมก่อนช่วงโควิด-19 ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางเป้าหมาย best case ไว้ที่ 39 ล้านคน ส่วนไทยเที่ยวไทย วางเป้าหมายไว้ที่ 200 ล้านคน/ครั้ง คาดสร้างรายได้โตจากปี 2567 ประมาณ 7.5%
นายสรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2568 กระทรวงฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะคิกออฟมาตรการก่อนช่วงโลซีซัน โดยกระทรวงการคลังเตรียมเปิดมาตรการ Easy E-receipt ซึ่งครั้งนี้สามารถนำมาใช้ในภาคท่องเที่ยวได้ด้วย ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่ง ททท. อยู่ระหว่างคิดแพ็กเกจ รวมถึงการบ้านที่เคยพูดก่อนหน้านี้ คือ Sharing เราเที่ยวด้วยกัน ก็อยู่ระหว่างเตรียมคิกออฟเช่นกัน