นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2567 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ที่ได้ทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงในทุกรูปแบบ ทั้งปัจจัยความท้าทายจากภายนอกประเทศและภายในประเทศ รวมทั้งความท้าทายความมั่นคงในรูปแบบใหม่ๆ กอ.รมน. จึงเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนความท้าทายในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อพัฒนาประเทศและพร้อมที่จะสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจสังคมให้กับประชาชนทุกคนต่อไป
สำหรับการแถลงผลงานของ กอ.รมน. ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสให้ตนเองได้พบกับเจ้าหน้าที่ และได้รับทราบถึงผลงานที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกับรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคตนโยบายซึ่งมีหลายนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ยังมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วม ที่ต้องใช้ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือดูแลประชาชน รวมถึงสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้มีดินโคลนถล่ม ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา ซึ่ง กอ.รมน. ก็สนับสนุนงานด้านนี้อย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยลง ตนเองในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือ ผอ.รมน. ขอมอบนโยบายและภารกิจสำคัญเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2568 ได้แก่ ด้านความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาอุทกภัย ฝุ่น PM 2.5 ที่จะต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย จึงขอให้ กอ.รมน.ภาค และจังหวัด ร่วมเป็นด่านหน้าและเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือประชาชน ป้องกันเฝ้าระวังการตัดไม้ การเผาป่า และให้เป็นหน่วยร่วมในการเฝ้าระวังลักลอบฝังกลบกากอุตสาหกรรมของเสียที่เป็นอันตรายอย่างจริงจัง โดยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น แล้วรัฐบาลจะมีมาตรการสนับสนุนอย่างเข้มข้นเช่นกัน
ส่วนด้านความมั่นคงทางสังคม จะต้องดูแลชีวิตประจำวันของประชาชน มอบหมาย กอ.รมน. ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ ยาเสพติด ขอให้ กอ.รมน. ร่วมมือกับ ป.ป.ส. ฝ่ายปกครอง ในการดำเนินงานตัดต้นตอยาเสพติดด้วยการสกัดกั้นและตัดต้นทางการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในประเทศ ปราบปรามยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด และค้นหาผู้เสพในชุมชนเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา รวมทั้งขอให้ กอ.รมน. ช่วยจัดฝึกอาชีพให้กับผู้บำบัดยาเสพติด เพื่อไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรยาเสพติดอีก
ขณะที่การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ รับมือกับแก๊งออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมีเทคนิคที่จะหลอกประชาชน ขอให้ กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการเป็นหน่วยปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด
ส่วนเรื่องซึ่งเป็นผลกระทบต่อประชาชนมาก คือ หนี้นอกระบบ ขอให้ กอ.รมน. ร่วมมือกับฝ่ายปกครอง และร่วมลงพื้นที่ในการแก้ไขปัญหากับประชาชนที่ประสบปัญหานี้ รัฐบาลมีเรื่องนโยบายอยู่แล้วที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งพึ่งประกาศนโยบายออกไป รวมถึงการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีบทบาทสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะงานข่าวกรอง งานมวลชนที่เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ไปรณรงค์ปลูกฝังในชุมชนขอให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สร้างเอกภาพในการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยขอมอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติภารกิจดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ส่วนเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กร ปัญหาด้านความมั่นคงในปัจจุบันอย่างที่ทราบกัน มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทางด้านเทคโนโลยี ขอให้ กอ.รมน.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร โดยระบบการทำงานต้องทันสมัย ด้านเทคโนโลยีต้องเน้นย้ำให้ปรับตัวทันกับโลกและเปลี่ยนผ่านไปสู่ราชการที่ทันสมัย เป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น ตรวจสอบได้ และโครงสร้างของ กอ.รมน. กำลังพลจะต้องกระทัดรัด คล่องตัว สามารถปรับตัวได้ง่าย สายการบังคับบัญชาต้องสั้นลง การทำงานต้องมีเป้าหมาย นอกจากมีเป้าหมายแล้วก็ต้องมีตัวชี้วัดผลที่ชัดเจนให้มากขึ้น บุคลากรที่มีความสามารถต้องได้รับความเจริญก้าวหน้า สนับสนุนต่อไปในอนาคต ทั้งหมดที่กล่าวมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ว่าฯที่ทำหน้าที่เป็น CEO ในบทบาทของผอ.รมน.จังหวัดโดยมี รอง ผอ.รมน.จังหวัด เป็นผู้ช่วยขอให้ ผอ.รมน.จังหวัด บูรณาการกำลังเข้ากับส่วนงานหลักที่รับผิดชอบในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนงาน และการปฏิบัติของกอ.รมน.จังหวัดที่มีผลงานให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า โอกาสนี้ขออนุญาตอวยพรให้ปีใหม่นี้ เป็นอย่างที่รัฐบาลพูดไว้ คือเป็นปีแห่งโอกาส ขอให้ทุกท่านในองค์กรให้โอกาสซึ่งกันและกัน พร้อมสนับสนุนซึ่งกันดูแล เพราะประเทศ จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ต้องอาศัยความสามัคคีของทุกฝ่าย เพื่อที่จะให้ประชาชนมีความสุขประเทศชาติมีความสุข เราก็จะทำหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกท่านมีแรงกายแรงใจ ช่วยกันดูแลปกป้องประเทศของเราและพี่น้องประชาชน สถาบันพระมหากษัตริย์ช่วยกันอย่างเต็มที่ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่สดใสทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง หวังว่าจะได้ร่วมกันทำงาน อย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนมากยิ่งขึ้น และทำงานแบบบูรณาการมากยิ่งขึ้นต่อไป