xs
xsm
sm
md
lg

"หญิงหน่อย"ถามนายกฯ เตรียมรับมือเศรษฐกิจปี 68 หรือยัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจประเทศไทยภายใต้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีปัญหาอยู่แล้ว คือหนี้ภาคครัวเรือนที่มีสูงถึง 92% ที่ยังไม่ได้รับ การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ยังดีที่รัฐบาลมีมาตรการเรื่องการแก้หนี้เสียออกมา แต่หนี้เสียก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลมองภาพรวมว่าการแก้หนี้ภาคครัวเรือนจะต้องทำอย่างไร ที่สำคัญคือ สิ่งที่รัฐบาลโดยพรรคแกนนำพูดไว้เสมอคือ การเร่งสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งการเร่งสร้างรายได้ เรายังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เพราะการแจกเงิน ขุดโคลนขาย ไม่ใช่การเร่งสร้างรายได้ แต่ต้องเร่งสร้างรายได้ด้วยการให้ทุน อาจจะช่วยสนับสนุนกฎหมายของพรรคไทยสร้างไทยก็ได้ คือ กฎหมายกองทุนเครดิตประชาชน ที่จะให้ทุนกับประชาชนดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อให้ประชาชนสามารถตั้งตัวได้ รวมถึงการเพิ่มทักษะและการหาตลาด

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการลดรายจ่าย จะเห็นว่าวันนี้ของแพงทั้งแผ่นดิน ซึ่งเกิดจากต้นทุนพลังงานที่สูง ทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟ ซึ่งสูงเกินความจำเป็น รัฐบาลต้องกล้าหาญที่จะปรับโครงสร้าง ซึ่งตนสนับสนุนนโยบายของนางสาวแพทองธาร ที่บอกว่าจะทลายทุนผูกขาด และโอกาสที่จะทำให้กับประชาชน หากสามารถปฏิรูปโครงสร้างพลังงานได้ จะทำให้น้ำมันลดทันที 5 บาท ค่าไฟลดทันที 1 บาท ไม่ใช่ของขวัญประชาชนที่ลดค่าไฟให้ จาก 4.18 บาท เหลือ 4.15 บาท

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องช่วยเรื่องของเงินทุน เพื่อให้คนตั้งตัวได้ ก็จะสามารถแก้หนี้ได้ถาวร โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ซึ่งหนี้คือปัญหาภายในที่ประเทศไทยต้องเผชิญ และยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น เราไม่มีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศอื่น ผลิตสินค้าที่ล้าสมัย ที่โลกเขาไม่ต้องการแล้ว ดังนั้นการปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาและการพัฒนาฝีมือ และความรู้ในการผลิตสินค้า จึงเป็นเรื่องสำคัญ

ทั้งนี้ ปีหน้าอยากจะให้นางสาวแพทองธาร ได้เตรียมรับมือและมีมาตรการโดยเร็ว แม้การท่องเที่ยวจะสามารถหาเงินมาชดเชยได้ แต่ก็ไม่เท่ากับการส่งออก เพราะเราจะเจอศึก 3 ด้าน คือ 1. ศึกทรัมป์ 2.0 เพราะเขาประกาศเรียบร้อยแล้วว่า อย่างไรก็ต้องขึ้นภาษีแน่กับประเทศที่ได้ดุลการค้าเขา ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น แต่ของไทยโดนหนักเพราะลูกค้าอันดับหนึ่ง คือสหรัฐฯ ดังนั้นสินค้าของเราที่ไปสหรัฐฯ มากที่สุดจะถูกขึ้นภาษี ทำให้การส่งออกทำได้ยาก อย่างนี้นายกฯ ได้เตรียมตัวเจรจากับสหรัฐฯ อย่างไร เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ จะรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 และเขาจะทำนโยบายนี้ทันที 2. ตลาดใหญ่ที่เราส่งออกคือจีน แต่ทรัมป์จะขึ้นภาษีจีน ซึ่งจะทำให้สินค้าจีนไปสหรัฐฯ ยาก เขาก็ต้องส่งมาประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเจอปัญหา สินค้าต่างประเทศทะลักเข้าไทยจำนวนมาก ถ้าเราไม่มีมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เกิดความเท่าเทียมทางการแข่งขัน ระหว่างสินค้าต่างชาติที่ราคาถูกกับสินค้าไทย เราก็ต้องช่วยให้มีความสมดุลในการแข่งขัน และเราจะเจอสินค้าไทยไปจีนยากขึ้น 3. เราเจอยุโรป ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน แต่วันนี้ตนยังไม่เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องนโยบายพลังงานทดแทน พลังงานสีเขียว ซึ่งมีความสำคัญมาก ถ้าเรายังผลิตพลังงาน โดยใช้พลังงานฟอสซิล นอกจากราคาสูงแล้ว เขาจะขึ้นกำแพงภาษีเรา ทำให้เราส่งออกไม่ได้อีก จึงอยากถามว่านางสาวแพทองธาร ได้เตรียมการเหล่านี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้เขามั่นใจได้อย่างไรว่า ปีหน้าเขาจะเดินต่อได้ ไม่อย่างนั้นเศรษฐกิจจะหนักกว่านี้

เมื่อถามว่าในฐานะพรรคไทยสร้างไทยเป็นฝ่ายค้าน การอภิปรายในปี 2568 ได้จองกฐินกระทรวงไหนไว้หรือยัง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้นเดือนมกราคม 2568 เราจะมีการหารือร่วมกัน แม้จะมีการหารือกันไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่เวลาพูดคุยกันน้อย จึงจะต้องมีการหารือกันหลังปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ตนขออนุญาตที่จะไม่เสียมารยาทพูดก่อน ขอพูดพร้อมกันหลังจากที่มีมติของฝ่ายค้านแล้ว