นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าผู้จำหน่าย ร้านสะดวกซื้อ ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ทั่วประเทศ กว่า 44,919 สาขา และแพลตฟอร์มออนไลน์ กว่า 300 ราย ยกทัพสินค้าราคาถูกกว่า 40,000 รายการ สูงสุดถึง 80% ตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2567-31 มกราคม 2568 ร่วม 46 วัน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพคนไทยทั้งประเทศกว่า 4,800 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 14,400 ล้านบาท ส่งมอบความสุขข้ามปีในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเปิดงาน Kick Off "พาณิชย์ลดราคา New Year Mega Sale 2025" ภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล เปิดงานที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์
โดยสินค้านำมาลดราคา ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย ของแต่งบ้าน อุปกรณ์ช่าง ยาและเวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์ ศูนย์บริการรถยนต์ โรงแรมที่พัก สายการบินประกันภัย บริการอินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์ ร้านอาหาร และแพลตฟอร์มออนไลน์ (บริการส่งอาหาร ขนส่ง-พัสดุ) และกลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน เป็นต้น อีกทั้ง ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมมือกับอีคอมเมิร์ซชั้นนำผ่านแพลตฟอร์ม Lazada, Shopee, Grab Food, Lineman, Foodpanda, Robinhood มอบส่วนลดสุดพิเศษในการซื้อสินค้าและบริการช่วงเทศกาลปีใหม่
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่มอบความสุขให้กับคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาทิ จัดงาน Made in Thailand ลดราคาสินค้าส่งออก 20-25% จัดจุดจำหน่ายสินค้าในส่วนภูมิภาค 76 จังหวัดกว่า 300 จุดทั่วประเทศ มอบส่วนลดแพ็คเกจแฟรนไชส์ ให้บริการข้อมูล FTA ฟรี ขยายเวลาให้บริการประชาชน อบรมและพัฒนาธุรกิจฟรี กว่า 4 หลักสูตร 38 วิชา ให้บริการ Fast Track ผ่านระบบ e-filing ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
นายพิชัย เปิดเผยด้วยว่า คณะรัฐมนตรีวันนี้ (17 ธ.ค.67) มีมติอนุมัติมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสําปะหลังตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องของสถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการรับซื้อมันสำปะหลังโดยไม่เร่งระบายผลผลิต รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและสร้างศักยภาพการแปรรูปของเกษตรกร ในการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ซึ่งจะส่งผลให้ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง ปี 2567/68 วงเงิน 300 ล้านบาท,สินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2567/68 วงเงิน 17.50 ล้านบาท , โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง ปี 2567/68 วงเงิน 41.40 ล้านบาท, และโครงการยกระดับศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง (เครื่องสับมันฯ) วงเงิน 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมของบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังไปก่อนในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาดมากนี้ ให้ผลผลิตมีเชื้อแป้งและผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เกษตรกรขายได้ราคา โดยจะสนับสนุนให้ใช้สินเชื่อจาก ธ.ก.ส. เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนระหว่างรอการเก็บเกี่ยว โดยรัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยให้ส่วนหนึ่ง คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ภายในสัปดาห์หน้า