นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพียงแค่สองวันที่เปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระเขี้ยวแก้ว พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ปี 2568 อย่างเนืองแน่นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดนี้
นอกจากนี้ ภายในท้องสนามหลวงยังมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และมีการจัดกิจกรรมทุกวันอีกด้วย
ทั้งนี้ ขอแนะนำรายละเอียดและข้อปฏิบัติ สำหรับประชาชนที่เดินทางเข้าน้อมกราบพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ดังนี้ ประตูเปิดให้เข้าตั้งแต่ เวลา 07.00 – 20.00 น. ของทุกวัน แสดงบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ หรือพาสปอร์ตต่อเจ้าหน้าที่ประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้า หากไม่มีบัตรแสดงตน) ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปภายในบริเวณ งดนำดอกไม้ พวงมาลัย พานบายศรี มาเองรัฐบาลจัดดอกบัวประดิษฐ์ไว้ภายใน เพื่อให้น้อมถวาย ผู้เข้าสักการะสามารถหยิบพร้อมบทสวดมนต์ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
สามารถเดินน้อมสวดมนต์ เดินเวียนเทียนแล้ววางบริเวณจุดวางดอกบัวโดยรอบได้โดยไม่ต้องไปรอวางด้านข้างจุดแรกจุดเดียว ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในบริเวณมณฑลพิธี แต่งกายสุภาพ ในลักษณะเข้าศาสนสถาน ไม่อนุญาตให้ใส่ชุดดำเข้าบริเวณมณฑลพิธี ไม่อนุญาตให้ใส่ขาสั้น สายเดี่ยว เกาะอก เสื้อบาง กางเกงยีนส์ขาด เข้าสักการะ และห้ามนำวัตถุของมีคม วัตถุไวไฟ ไฟแช็ค มีด คัตเตอร์ เข้าไปภายในบริเวณมณฑลพิธี
นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในช่วงเวลา 10.00-12.00 น. และเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และพิธีเจริญจิตตภาวนา ทุกวันพระ โดยจะมีพิธีแสดงธรรมเทศนา 1 กันต์ (ในภาคเช้า) สำหรับในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 จะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และกิจกรรมทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2568
นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเชิญชวนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งโอกาสที่หาได้ไม่บ่อยนักที่จะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศจีน ที่ประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทยจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00-20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568