xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ไซเบอร์ร่วมสถานทูตนิวซีแลนด์ รวบ 2 ผัวเมียปลอมวีซ่าหลอกคนไทยไปทำงานต่างแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3 พร้อมด้วย นายจัสติน แอลเวส ผู้จัดการด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, นายเบน ควินน์ เจ้าหน้าที่ประสานงานด้านการอพยพที่ผิดกฎหมาย สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ และนายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติกรณีจับกุมผู้กระทำผิดหลอกทำวีซ่า

สืบเนื่องจากสถานทูตนิวซีแลนด์ ตรวจพบความผิดปกติของแรงงานไทยที่เดินทางเข้าไปทำงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ และจากเอกสารการขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศนิวซีแลนด์ พบว่ามีการยื่นเอกสารเพื่อขอทำวีซ่าปลอม จึงประสานมายังตำรวจไซเบอร์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และศาลได้อนุมัติหมายจับ 2 ราย

กระทั่งวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 07.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ได้นำกำลังเข้าบุกค้นบ้านย่านประเสริฐมนูกิจ ที่เป็นแหล่งกบดานหลบหนีของคนร้าย ซึ่งผู้ต้องหาเคยกระทำความผิดในการหลอกลวงแรงงานมาแล้วหลายครั้ง มีความเชี่ยวชาญ และปิดตัวเองจากโลกออนไลน์ แม้กระทั่งบัตรประชาชนยังไม่เคยทำมาร่วมสิบปี จนกระทั่งจับผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ น.ส.จันทิมา (สงวนนามสกุล) และนายอนุวัตน์ (สงวนนามสกุล) ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันปลอมเอกสาร ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง"

จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า คนร้ายได้เรียนรู้จากประสบการณ์การไปทำงานที่เกาหลี จึงพบช่องทางว่ามีคนไทยสนใจไปทำงานต่างประเทศเป็นจำนวนมาก คนร้ายจึงเข้าไปศึกษาในกลุ่มหางานต่างประเทศ และเริ่มหลอกลวง โดยเริ่มจากผู้ที่ต้องการหางานที่ประเทศเกาหลี ต่อมาเห็นว่าตลาดที่เกาหลีขาดความน่าสนใจ จึงพุ่งเป้ามาที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีค่าจ้างแรงงานสูงกว่า โดยการศึกษาหาข้อมูลจากทางโซเชียล จนสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับงาน ขั้นตอนต่างๆ ในการยื่นขอวีซ่าไปทำงาน

โดยคนร้ายได้ซื้อเพจเฟซบุ๊กที่มีคนติดตามจำนวนมากมาจากบุคคลอื่น และโพสต์ชักชวนไปทำงานที่นิวซีแลนด์ และตั้งราคาให้น้อยกว่าเพจอื่นเพื่อดึงดูดความสนใจ เมื่อเหยื่อสนใจ คนร้ายจะทักเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นและส่งต่อผู้เสียหาย โดยอ้างว่าให้คุยกับเอเจนซี่ที่นำคนงานเข้าประเทศนิวซีแลนด์โดยตรง ที่ใช้ไลน์ชื่อ "วุฒิ" เมื่อผู้เสียหายสนใจ คนร้ายจึงได้ให้ผู้เสียหายส่งข้อมูลส่วนตัวไป เพื่อใช้ประกอบการสมัครงาน และแจ้งว่าจะส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้กับนายจ้าง โดยแจ้งรายละเอียดในการทำงานว่า ในการดำเนินการประสานงานกับนายจ้างและทำวีซ่าทำงาน มีค่าใช้จ่ายให้บริษัทเอเจนซี่ 70,000 บาท แบ่งเป็นค่าดำเนินการเรื่องวีซ่าทำงาน 50,000 บาท ค่าครองชีพ (ค่าเสื้อผ้า, ค่าของใช้ส่วนตัว) 20,000 บาท สัญญาทำงานกับนายจ้างปีต่อปี ส่วนรายละเอียดค่าตอบแทนต้องไปตกลงกับนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์

หลังจากนั้นจะทำการพูดคุย ทักทายกับเหยื่อเรื่อยๆ และเปิดวิดีโอคอลให้เหยื่อเห็นหน้าเพื่อให้เหยื่อเชื่อโดยสนิทใจ คนร้ายจะแจ้งว่า สัญญาจ้างได้ถูกส่งมาจากประเทศนิวซีแลนด์แล้ว และคนร้ายจะทำการถ่ายรูปสัญญาจ้างที่ตนทำขึ้นเองส่งไลน์ให้กับเหยื่อดู และจะแจ้งว่าห้ามส่งต่อข้อมูล หากข้อมูลมีการรั่วไหลจะดำเนินคดี เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ คนร้ายได้ให้โอนเงินให้ แบ่งเป็นรอบๆ เมื่อได้เงินและเหยื่อเริ่มสงสัย คนร้ายจะทำการปิดกั้นการติดต่อ

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายเพียง 2 ราย แต่จากการเข้าตรวจค้นและทำการสืบสวน พบหลักฐานที่คาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกกว่า 10 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการประสานไปยังผู้เสียหายที่เหลือ และผู้เสียหายอีกหลายราย ที่ยังไม่ได้แจ้งความ หรือแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ก็สามารถประสานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

ทั้งนี้ ภายหลังจากการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน