นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร กล่าวถึงกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุถึงแนวทางปรับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT เป็น 15% ว่า จากเดิม ครม. เคยมีมติปรับขึ้นเป็น 10% แต่ต้องกลับมาใช้ 7% ก่อนหน้านี้ ซึ่งยอมรับว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารกว่า 50% ต้องปิดตัวลง นับตั้งแต่ต้นปี 2567 ทั้งนี้ หากปรับขึ้นอีกถือว่าเป็นการซ้ำเติม ซึ่งหากขึ้น VAT จาก 7% เป็น 15% ทำให้ราคาอาหารสูงขึ้นอย่างน้อย 20-25% เพื่อให้ต้นทุนสามารถครอบคลุม VAT ที่ปรับขึ้นมา
นอกจากนี้ ร้านอาหารอาจจะหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบภาษี หรือร้านใหม่ๆ ก็จะไม่ยอมเข้าสู่ระบบอีกด้วย ซึ่งจะทำให้การเก็บภาษีจากธุรกิจร้านอาหารในระบบลดลง
ขณะที่นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า สำหรับโรงแรมหากปรับ VAT ขึ้น จะส่งผลทั้งต่อกำลังซื้อของลูกค้าที่จะชะลอการใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้งยังกระทบต้นทุนของธุรกิจโรงแรมต่อการจองห้องพักในช่วงที่ไม่ใช่วันหยุดหรือเทศกาล
ทั้งนี้ มีข้อเสนอว่า หากจะมีการปรับเพิ่ม VAT จริง ไม่ควรปรับเกิน 10% ในช่วงแรก เพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกิจ รวมถึงรัฐต้องมีคำตอบในการอธิบายให้ชัดเจน มีการเทียบผลการเก็บภาษีในปัจจุบัน และรวมถึงผลเสียต่างๆ ด้วย