ตามที่มีข้อมูลเรื่องเปิดให้แรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน หรือต่ออายุทำงาน และแรงงานเถื่อนก็สามารถขึ้นทะเบียนได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลว่า เปิดให้แรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน หรือต่ออายุทำงาน และแรงงานเถื่อนก็สามารถขึ้นทะเบียนได้ ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า กรมการจัดหางาน เตรียมจดทะเบียนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 โดยสาระสำคัญของประกาศ
ฉบับที่ 1 คือ ผ่อนผันให้แรงงานทั้ง 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม กลุ่มที่อนุญาตให้อยู่หรือทำงานอยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย กลุ่มที่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับอนุญาต แต่ทำงานกับนายจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และกลุ่ม 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถึง 30 ธ.ค. 67 เพื่อดำเนินการขออนุญาตทำงานตามที่ประกาศกระทรวงแรงงานกำหนด เมื่อดำเนินการตามที่กำหนดแล้วจะสามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้เป็นระยะเวลา 1 ปี ถึงวันที่ 31 มี.ค. 69 รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้มีสิทธิอยู่ตามสิทธิของคนต่างด้าวที่เป็นบิดาหรือมารดา โดยให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร หากผู้ติดตามมีอายุ ครบ 18 ปี และประสงค์ทำงานกับนายจ้างให้คนต่างด้าวสามารถอยู่ในประเทศไทยอีก 60 วัน เพื่อยื่นขออนุญาตทำงาน
ส่วนฉบับที่ 2 กำหนดให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU เพื่อให้สามารถทำงานเป็นเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 70 และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 72 ครอบคลุมถึงผู้ติดตามคนต่างด้าว (บุตรของแรงงานต่างด้าว) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี สามารถอยู่ในประเทศได้เท่ากับระยะเวลาที่บิดามารดาของผู้นั้นได้รับอนุญาต โดยจะต้องไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร หากผู้ติดตามมีอายุครบ 18 ปี และประสงค์จะทำงาน ให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และดำเนินการตามกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวต่อไป
ทั้งนี้ ประกาศทั้ง 2 ฉบับอยู่ระหว่างการนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม
ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เนื่องจากเป็นประกาศกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย
กรณีที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลว่า เปิดให้แรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน หรือต่ออายุทำงาน และแรงงานเถื่อนก็สามารถขึ้นทะเบียนได้ ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า กรมการจัดหางาน เตรียมจดทะเบียนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 โดยสาระสำคัญของประกาศ
ฉบับที่ 1 คือ ผ่อนผันให้แรงงานทั้ง 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม กลุ่มที่อนุญาตให้อยู่หรือทำงานอยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย กลุ่มที่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับอนุญาต แต่ทำงานกับนายจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และกลุ่ม 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถึง 30 ธ.ค. 67 เพื่อดำเนินการขออนุญาตทำงานตามที่ประกาศกระทรวงแรงงานกำหนด เมื่อดำเนินการตามที่กำหนดแล้วจะสามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้เป็นระยะเวลา 1 ปี ถึงวันที่ 31 มี.ค. 69 รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้มีสิทธิอยู่ตามสิทธิของคนต่างด้าวที่เป็นบิดาหรือมารดา โดยให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร หากผู้ติดตามมีอายุ ครบ 18 ปี และประสงค์ทำงานกับนายจ้างให้คนต่างด้าวสามารถอยู่ในประเทศไทยอีก 60 วัน เพื่อยื่นขออนุญาตทำงาน
ส่วนฉบับที่ 2 กำหนดให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU เพื่อให้สามารถทำงานเป็นเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 70 และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 72 ครอบคลุมถึงผู้ติดตามคนต่างด้าว (บุตรของแรงงานต่างด้าว) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี สามารถอยู่ในประเทศได้เท่ากับระยะเวลาที่บิดามารดาของผู้นั้นได้รับอนุญาต โดยจะต้องไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร หากผู้ติดตามมีอายุครบ 18 ปี และประสงค์จะทำงาน ให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และดำเนินการตามกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวต่อไป
ทั้งนี้ ประกาศทั้ง 2 ฉบับอยู่ระหว่างการนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม
ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เนื่องจากเป็นประกาศกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย