พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที พร้อมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งดูแลในส่วนของข้าราชการตำรวจ และสถานที่ราชการของตำรวจที่ได้รับผลกระทบด้วย
ทั้งนี้ ยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 อำเภอ คือ กาญจนดิษฐ์, ดอนสัก ระดับน้ำลดลง จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 อำเภอ คือ ชะอวด, เฉลิมพระเกียรติ, พระพรหม, เมืองฯ, ร่อนพิบูลย์ ระดับน้ำลดลง จังหวัดสงขลา 1 อำเภอ คือ ระโนด ระดับน้ำทรงตัว จังหวัดปัตตานี 2 อำเภอ คือ มายอ, ทุ่งยางแดง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น จังหวัดยะลา 1 อำเภอ คือ บันนังสตา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และ จังหวัดนราธิวาส 5 อำเภอ คือ บาเจาะ, แว้ง, รือเสาะ, เจาะไอร้อง, สุคิริน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้ง 13 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2567
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ในทุกด้านจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ประสบปัญหา พร้อมทั้งออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติม หากพบให้ดำเนินคดีทุกราย และให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานส่งกำลังบำรุง สนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ ยานพาหนะ และกองบินตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมการอพยพช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือทางการแพทย์
นอกจากนี้ ให้นำแนวทางการปฏิบัติกรณีเกิดอุทกภัย ภัยพิบัติ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านมา มาปรับใช้ ซึ่งได้สั่งการให้ถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ต่างๆ ต่อไปไว้แล้ว และเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย โดยเน้นเรื่องความเป็นอยู่และสวัสดิการอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง