ผู้นำรัสเซียยันมีสิทธิใช้อาวุธโจมตีกลับยูเครน หลังถูกโจมตีในภูมิภาคไบรอันสค์ก่อน

หลังจากกองทัพอากาศยูเครน ระบุรัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)หนึ่งลูกจากแคว้นอัสตราฮันทางภาคใต้ของรัสเซีย เพื่อโจมตีเมืองดนีโปร (Dnipro)ทางภาคกลางของยูเครนนั้น

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวปราศรัยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ที่เครมลิน ในกรุงมอสโก ว่า กองทัพยูเครน โจมตีเป้าหมายในภูมิภาคไบรอันสค์ของรัสเซียด้วยขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตในสหรัฐฯ จำนวน 6 ลูก และต่อมายังยิงระบบ Storm Shadow ของอังกฤษและฝรั่งเศส โจมตีภูมิภาคเคิร์สต์ อีกด้วย ทำให้รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้อาวุธโจมตีฐานทัพของประเทศต่างๆ ที่อนุญาตให้ใช้อาวุธโจมตีฐานทัพของเรา และในกรณีที่มีการกระทำก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้น เราจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดและเท่าเทียมกัน โดยอ้างว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถสกัดการโจมตีทั้งสองครั้งได้ และไม่มีผู้เสียชีวิต หรือความเสียหายสำคัญใดๆ

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวในโพสต์บน X ว่า การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดใหม่ เป็นการเพิ่มระดับและความโหดร้ายของสงครามนี้อย่างชัดเจนและรุนแรง นายเซเลนสกี เรียกสิ่งนี้ว่าการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ และกล่าวหารัสเซียว่าเป็นการยกระดับสถานการณ์ครั้งที่สอง ครั้งแรกคือ การที่กองทหารเกาหลีเหนือ เข้าไปเกี่ยวข้องในสงคราม
ในส่วนของสหรัฐฯ ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวว่าสิ่งที่เรามุ่งเน้นคือการสนับสนุนยูเครนต่อไปด้วยสิ่งที่จำเป็นเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย