xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดี "แอม ไซยาไนด์"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 พ.ย.67) ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี และอดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3

จากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อปี 2566 โดยเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 นางสรารัตน์ หรือ แอม จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือก้อย อายุ 32 ปี ด้วยการวางแผนใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต น.ส.ศิริพร โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) อันเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นสารพิษที่เมื่อบุคคลเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายแล้ว ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เลือดมีภาวะความเป็นกรดสูง เกิดภาวะขาดพลังงานและออกซิเจน ส่งผลให้สมองและหัวใจขาดพลังงานและออกซิเจน อันเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของผู้เสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย ทำการปลอมปนใส่ลงในอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค ชนิดใดและปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัด ให้ น.ส.ศิริพร ดื่ม หรือรับประทาน หรือเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดไม่ปรากฏชัด แต่เป็นปริมาณที่มากพอที่ทำให้สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย น.ส.ศิริพร จนหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

วันนี้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี และ น.ส.ธันย์นิชา ที่ได้รับการประกันตัวต้องเดินทางมาศาลตามนัดด้วย ส่วนนางสรารัตน์ จะถูกเบิกตัวจากทัณฑสถานหญิงกลาง

ทั้ง 3 คน มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด