น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาเครื่องสำอางที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. … ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้วตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาเครื่องสำอางที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. ... คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 อนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีการแก้ไขถ้อยคำเพียงเล็กน้อยและมิได้แก้ไขเพิ่มเติมในสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ยังคงหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ กล่าวคือ กำหนดข้อความที่ต้องห้ามใช้ในการโฆษณาเครื่องสำอางเพิ่มเติมจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 กำหนดไว้ โดยเป็นข้อความที่ต้องห้ามใช้ในการโฆษณาเครื่องสำอาง
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเพิ่มเติมให้ข้อความดังต่อไปนี้ 1. ข้อความที่ทำให้เข้าใจว่าใช้กับบริเวณภายในร่างกายมนุษย์ แต่ไม่รวมถึงข้อความที่ใช้ในการโฆษณาผ้าอนามัยชนิดสอดหรือที่ทำให้เข้าใจว่าใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก 2. ข้อความที่ทำให้เข้าใจว่านำไปใช้ฉีดหรือใช้ร่วมกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่รุกล้ำ เข้าไปในร่างกาย หรือข้อความที่ทำให้เข้าใจว่านำไปใช้ประกอบหรือใช้ร่วมกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์เพื่อทำให้มีการผลักดันสารเข้าสู่ร่างกายลึกกว่าชั้นหนังกำพร้า