นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังเขตชุมชนเมือง ในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 20-26 พฤศจิกายนนั้น จึงสั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เตรียมมาตรการด้านความปลอดภัยในการเดินรถ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจ และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนตลอดการเดินทาง เนื่องจากช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน จนถึงช่วงกลางเดือนมกราคม มักจะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่ได้
ผู้ว่าการ การรถไฟฯ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ รวมถึงเครื่องมือบำรุงทาง ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน รวมทั้งให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบสภาพทาง การสำรวจพื้นที่ และการขุดลอกคูคลองรวมถึงลอกท่อระบายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการระบายน้ำ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ ให้เร่งกำจัดวัชพืชและกิ่งไม้บริเวณสองข้างทางรถไฟ ซึ่งอาจบดบังทัศนะวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง ตลอดจนตรวจสอบระบบเครื่องกั้นอัตโนมัติ ป้ายสัญญาณ ป้ายเตือนระวังรถไฟ ป้ายจราจรบริเวณทางผ่าน และพื้นผิวจราจรบริเวณทางผ่านเสมอระดับ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ เพื่อดูแลความปลอดภัยต่อให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา
นอกจากนี้ ยังกำชับให้นายสถานี และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างทันท่วงที เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็วที่สุดในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนจัดหาสถานที่พักคอยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับดูแลผู้โดยสารบริเวณรอบสถานี เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ
นายวีริศ ย้ำว่า การรถไฟฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการ จึงเตรียมพร้อมมาตรการต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังและดำเนินการได้ทันทีหากเกิดกรณีฉุกเฉิน ที่สำคัญ ต้องกระทบกับการเดินทางของประชาชนให้น้อยที่สุดในทุกเส้นทาง