นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่เกินเป้าหมายรวม 94.08 เปอร์เซ็นต์ แต่มีปัญหาความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้หน่วยรับงบประมาณเหลือเวลาทำงานน้อย และต้องเร่งเบิกจ่ายในช่วงท้ายปี โดยเฉพาะงบลงทุนที่ผลการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2567 รายจ่ายประจำสามารถเบิกจ่ายได้เกินเป้าหมายที่ 101.14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการจ่ายประจำนี้ เป็นรายจ่ายที่รัฐบาลจะต้องจ่ายตามปกติ เพราะส่วนใหญ่เป็นงบรายจ่ายด้านบุคลากร ส่วนงบลงทุนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำได้เพียง 65.15 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยงบส่วนที่เหลือถูกตั้งไว้เป็นงบเบิกเหลื่อมปี ซึ่งคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2568
ส่วนที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญคือ งบประมาณรายจ่ายของปี 2568 ซึ่งกำลังบังคับใช้ หลายโครงการได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว แต่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งกระบวนการประมูล จัดซื้อจัดจ้าง และอนุมัติโครงการ เพื่อให้ทันกรอบเวลาที่กำหนด การเร่งรัดนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการจ้างงาน และเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ นายสรรเพชญ แสดงความกังวลว่า หากรัฐบาลยังไม่ปรับปรุงกระบวนการ เช่น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ความล่าช้าเดิมอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว
ส่วนที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญคือ งบประมาณรายจ่ายของปี 2568 ซึ่งกำลังบังคับใช้ หลายโครงการได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว แต่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งกระบวนการประมูล จัดซื้อจัดจ้าง และอนุมัติโครงการ เพื่อให้ทันกรอบเวลาที่กำหนด การเร่งรัดนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการจ้างงาน และเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ นายสรรเพชญ แสดงความกังวลว่า หากรัฐบาลยังไม่ปรับปรุงกระบวนการ เช่น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ความล่าช้าเดิมอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว