นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท – คุยการเมือง" ว่า ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครรับเลือกเป็นนายก อบจ.อุดรธานี หาเสียงที่ จ.อุดรธานี ว่า
ทักษิณ ปราศรัย ระวังปากพาจน
นายทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.อุดรธานี หลายเวทีใช้คำพูดที่ดุเดือดรุนแรง วิญญาณเดิมของคุณทักษิณกลับคืนมา โดยไม่สนใจอะไรในสังคม มีหลายคำที่พูดเป็นคำหยาบ เหยียดหยามฝ่ายตรงข้าม แต่มีตอนหนึ่งที่ผมเห็นว่า คุณทักษิณพูดแล้วสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ จากการกล่าวคำปราศรัยตอนหนึ่งว่า
"เห็นสภาพบ้านเมืองแล้วหดหู่ หากปล่อยไว้แบบนี้คนไทยจะเหมือนคนลาวถูกพัฒนาช้า พัฒนาเร็วเฉพาะส่วน คนส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้ง ตนก็เป็นคนบ้านนอก ฉะนั้น ใจผมเป็นห่วงที่สุดคือคนรากหญ้า สิ่งที่ยากเลยคือนักการเมืองเฮงซวย หากการเมืองเฮงซวยเมื่อไหร่ นักการเมืองก็เฮงซวยตาม แต่ระหว่างที่ผมออกไปเขาก็สร้างระบบกติกาให้การเมืองมันเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆ"
การปราศรัยของนายทักษิณช่วงสั้นๆ แต่พาดพิงในหลายส่วน เช่น
1. การกล่าวหาสภาพบ้านเมืองหดหู่ พัฒนาช้า ต้องถามคุณทักษิณว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาบ้านเมือง ที่ทำให้การเมืองถอยหลังเข้าคลอง ถ้าคุณเป็นรัฐบาลที่ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย ก็ไม่มีการรัฐประหารมาทำให้ประชาธิปไตยถอยเข้าคลอง
2. การกล่าวพาดพิงไปถึงคนลาวพัฒนาช้า เป็นการบูลลี่คนลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยมารยาทไม่ควรยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เขาได้รับความเสียหาย ควรให้เกียรติและให้ค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นคนลาวหรือคนไทย
3. การพูดถึงชีวิตคนรากหญ้า ซึ่งคุณทักษิณ ได้สร้างนโยบายประชานิยม จนคนไทยเสพติดการแจกเงิน แม้ว่าคุณทักษิณจะประกาศว่า รัฐบาลที่แจกเงินคือรัฐบาลปัญญาอ่อน แต่ในที่สุดรัฐบาลแพทองธาร ก็แจกเงินให้กับประชาชนคนละ 10,000 บาทมาแล้ว และบนเวทีปราศรัยคุณทักษิณยังประกาศว่า จะแจกเงินคนละ10,000บาทให้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่ใช่กลุ่มคนเปราะบางอีกด้วย การแจกแบบนี้ต้องถามว่าเป็นรัฐบาลปัญญาอ่อนหรือไม่
4. การด่านักการเมืองเฮงซวย การเมืองเฮงซวย ต้องบอกว่าคำพูดแบบนี้ไม่ควรจะออกมาจากปากของอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณเองก็เป็นนักการเมือง ลูกสาวก็เป็นนักการเมือง คนในตระกูลเป็นนักการเมือง ถ้าจับเหมารวมว่านักการเมืองเฮงซวย ก็หมายความว่าคนในตระกูลชินวัตรเฮงซวยด้วยใช่หรือไม่
5. คุณทักษิณอ้างว่า ตอนที่ตนไม่อยู่ มีการสร้างกติกาทางการเมืองที่เฮงซวยนั่น น่าหมายถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องถามคุณทักษิณว่า ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ดี เป็นรัฐธรรมนูญเฮงซวย ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทำไมต้องยกเว้นหมวด1 และหมวด2 อย่าทำเป็น“เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง” อะไรได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เอา อะไรเสียประโยชน์ ก็จะด่าว่ากฎหมายเฮงซวย
ผมเห็นการปราศรัยของนายทักษิณใช้ถ้อยคำที่รุนแรงหลายครั้ง แต่ผมยกมาเพียงบางส่วนบางตอน เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าจิตใต้สำนึก และนิสัยที่แท้จริง ของนายทักษิณเป็นคนอย่างไร พูดจาสามหาว ใช้คำแรง คำหยาบ ด่ากราดโดยไม่สนใจใคร แสดงตัวตนที่แท้จริงอย่างชัดเจน ระวังปากจะพาจน เหมือนกับการพูดจนต้องคดี ม.112 อยู่ในขณะนี้
ทักษิณ ปราศรัย ระวังปากพาจน
นายทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.อุดรธานี หลายเวทีใช้คำพูดที่ดุเดือดรุนแรง วิญญาณเดิมของคุณทักษิณกลับคืนมา โดยไม่สนใจอะไรในสังคม มีหลายคำที่พูดเป็นคำหยาบ เหยียดหยามฝ่ายตรงข้าม แต่มีตอนหนึ่งที่ผมเห็นว่า คุณทักษิณพูดแล้วสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ จากการกล่าวคำปราศรัยตอนหนึ่งว่า
"เห็นสภาพบ้านเมืองแล้วหดหู่ หากปล่อยไว้แบบนี้คนไทยจะเหมือนคนลาวถูกพัฒนาช้า พัฒนาเร็วเฉพาะส่วน คนส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้ง ตนก็เป็นคนบ้านนอก ฉะนั้น ใจผมเป็นห่วงที่สุดคือคนรากหญ้า สิ่งที่ยากเลยคือนักการเมืองเฮงซวย หากการเมืองเฮงซวยเมื่อไหร่ นักการเมืองก็เฮงซวยตาม แต่ระหว่างที่ผมออกไปเขาก็สร้างระบบกติกาให้การเมืองมันเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆ"
การปราศรัยของนายทักษิณช่วงสั้นๆ แต่พาดพิงในหลายส่วน เช่น
1. การกล่าวหาสภาพบ้านเมืองหดหู่ พัฒนาช้า ต้องถามคุณทักษิณว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาบ้านเมือง ที่ทำให้การเมืองถอยหลังเข้าคลอง ถ้าคุณเป็นรัฐบาลที่ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย ก็ไม่มีการรัฐประหารมาทำให้ประชาธิปไตยถอยเข้าคลอง
2. การกล่าวพาดพิงไปถึงคนลาวพัฒนาช้า เป็นการบูลลี่คนลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยมารยาทไม่ควรยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เขาได้รับความเสียหาย ควรให้เกียรติและให้ค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นคนลาวหรือคนไทย
3. การพูดถึงชีวิตคนรากหญ้า ซึ่งคุณทักษิณ ได้สร้างนโยบายประชานิยม จนคนไทยเสพติดการแจกเงิน แม้ว่าคุณทักษิณจะประกาศว่า รัฐบาลที่แจกเงินคือรัฐบาลปัญญาอ่อน แต่ในที่สุดรัฐบาลแพทองธาร ก็แจกเงินให้กับประชาชนคนละ 10,000 บาทมาแล้ว และบนเวทีปราศรัยคุณทักษิณยังประกาศว่า จะแจกเงินคนละ10,000บาทให้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่ใช่กลุ่มคนเปราะบางอีกด้วย การแจกแบบนี้ต้องถามว่าเป็นรัฐบาลปัญญาอ่อนหรือไม่
4. การด่านักการเมืองเฮงซวย การเมืองเฮงซวย ต้องบอกว่าคำพูดแบบนี้ไม่ควรจะออกมาจากปากของอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณเองก็เป็นนักการเมือง ลูกสาวก็เป็นนักการเมือง คนในตระกูลเป็นนักการเมือง ถ้าจับเหมารวมว่านักการเมืองเฮงซวย ก็หมายความว่าคนในตระกูลชินวัตรเฮงซวยด้วยใช่หรือไม่
5. คุณทักษิณอ้างว่า ตอนที่ตนไม่อยู่ มีการสร้างกติกาทางการเมืองที่เฮงซวยนั่น น่าหมายถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องถามคุณทักษิณว่า ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ดี เป็นรัฐธรรมนูญเฮงซวย ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทำไมต้องยกเว้นหมวด1 และหมวด2 อย่าทำเป็น“เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง” อะไรได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เอา อะไรเสียประโยชน์ ก็จะด่าว่ากฎหมายเฮงซวย
ผมเห็นการปราศรัยของนายทักษิณใช้ถ้อยคำที่รุนแรงหลายครั้ง แต่ผมยกมาเพียงบางส่วนบางตอน เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าจิตใต้สำนึก และนิสัยที่แท้จริง ของนายทักษิณเป็นคนอย่างไร พูดจาสามหาว ใช้คำแรง คำหยาบ ด่ากราดโดยไม่สนใจใคร แสดงตัวตนที่แท้จริงอย่างชัดเจน ระวังปากจะพาจน เหมือนกับการพูดจนต้องคดี ม.112 อยู่ในขณะนี้