นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปช. รับทรายการรายงานการเคลื่อนตัว พายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนที่ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 11-12 พฤศจิกายน จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ โดยพายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังในส่วนของผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน ทำให้เกิดมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่บางแห่ง
โดยกรมทรัพยากรธรณีขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณ 8 จังหวัด แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกสะสมในช่วงวันที่ 11-12 พฤศจิกายน ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้รายงานต่อที่ประชุม ศปช. ประกาศเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำมากในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 6 แห่ง ที่มีน้ำมาก (80-100%) ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ่างเก็บน้ำบางวาด อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ่างเก็บน้ำคลองกะทะ อ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมาก (มากกว่า 100%) 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำคลองหยา และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 1 แห่ง ที่มีน้ำมาก (80-100%) อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนัง
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เตรียมตรวจความพร้อมเฮลิคอปเตอร์ KA 32 ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้หากเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นมา