ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (11-15 พ.ย.) ที่ระดับ 33.60-34.50 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. ที่ 34.02 บาท/ดอลลาร์
โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกอ่อนค่าลงทะลุระดับ 34.00 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 34.46 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึงเงินเยนและเงินหยวนของจีน ขณะที่ เงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องสอดคล้องกับบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ รับผลการเลือกตั้งซึ่งสะท้อนว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะและเตรียมที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติและการปรับตัวลงมาของราคาทองคำในตลาดโลกด้วยเช่นกัน
ในช่วงปลายสัปดาห์ เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนหลังจากที่เงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงตามแรงขายทำกำไร (จากที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้านี้ รับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ) ประกอบกับน่าจะมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐ หลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่กรอบ 4.50-4.75% ในการประชุมรอบล่าสุด 6-7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ โดยเฉพาะค่าเงินหยวน รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนตุลาคม ของจีน และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของอังกฤษด้วยเช่นกัน