นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวเข้าให้ถ้อยคำกับอัยการสูงสุด กรณีที่มีผู้ร้องพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 49 โดยชี้แจงว่า คณะทำงานอัยการมีความเห็นแบบนี้ ในขณะที่อัยการสูงสุดมีความเห็นแย้ง เรื่องนี้ไม่ตรง ไม่เป็นความจริง แต่ที่รับรู้อัยการสูงสุดสอบเพิ่มทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง เดิมคณะทำงานสอบปากคำเรียบร้อยและส่งให้อัยการสูงสุด แต่สุดท้ายมีความเห็นว่าให้สอบเพิ่มเพื่อความรอบคอบ จึงเป็นที่มาให้พรรคเพื่อไทยไปให้การเพิ่มเติม จึงประสานว่าจะเข้าไปให้ปากคำในวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมเอกสารหลักฐานเกี่ยวข้อง เพื่อให้อัยการสูงสุดส่งเรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลกำหนดให้ส่งภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเราให้การตามที่รับรู้ รับทราบ ตอนนี้อัยการสูงสุดต้องทำความเห็นและส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวข้องทั้งหมดไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบการพิจารณา ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง เพราะรอหลักฐานจากอัยการสูงสุด
เมื่อถามว่าการปรากฏตัวของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นการแสดงความมั่นใจว่าเป็นไปตามที่กล่าวหา นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องแยกคดีที่มีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าคนร้องคือใคร ร้องในประเด็นใด ซึ่งเป็นการร้องตามมาตรา 49 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ เดิมทางเพื่อไทยดูจากคำร้องแล้วไม่เข้าองค์ประกอบและไม่เข้าข่าย
นายชูศักดิ์ ย้ำว่า ตนใช้คำง่ายๆ ว่าทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย มั่ว ส่วนคำชี้แจงของเราก็ต้องว่ากัน ส่วนอีกเรื่องยังอยู่ในชั้นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีเรื่องเดียวคือการครอบงำ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ใช่การครอบงำ